พระศรีศิลป์ให้เข้ามาเข้าพระราชวังณวัน ๗ ๑ฯ ๙ ค่ำ ครั้งนั้น พญาสีหราชเดโชเปนโทษรับพระราชอาชญาอยู่ แลพญาสีหราชเดโชจึงให้ไปว่าแก่พระศรีศิลป์ว่า ครั้นพ้นวันพระแล้ว จะให้ลงพระราชอาชญา ฆ่าพญาสีหราชเดโชเสีย แลขอให้เร่งยกเข้ามาให้ทันแต่ในวันพระนี้ แลพระศรีศิลป์จึงยกเข้ามาแต่ในวัน ๕ ๑๔ฯ ๘ ค่ำ เพลาเย็นนั้น มายังกรุง ครั้งรุ่งขึ้นในวันพระนั้น พระศรีศิลป์เข้าพระราชวังได้ ครั้งนั้น ได้พระศรีศิลป์มรณภาพในพระราชวังนั้น ครั้นแลรู้ว่าพระสังฆราชป่าแก้วให้ฤกษ์แก่พระศรีศิลป์เปนแม่นแล้วไซร้ ก็ให้เอาพระสังฆราชป่าแก้วไปฆ่าเสีย.
๏ศักราช ๙๒๔ จอศก (พ.ศ. ๒๑๐๕) เสด็จไปวังช้างตำบลไทรย้อย ได้ช้างพลายพัง ๗๐ ช้าง⟨.⟩
๏ศักราช ๙๒๕ กุญศก (พ.ศ. ๒๑๐๖) พระจ้าหงษานิพัตรยกพลลงมาในเดือน ๑๒ นั้น ครั้นเถิงวัน ๑ ๕ฯ ๒ ค่ำ พระเจ้าหงษาได้เมืองพิศณุโลก ครั้งนั้น เมืองพิศณุโลกเข้าแพงเปน ๓ สัดต่อบาท อนึ่ง คนทั้งปวงเกิดทรพิศม์ตายมาก แล้วพระเจ้าหงษาจึงได้เมืองฝ่ายเหนือทั้งปวง แล้วจึงยกพลลงมายังกรุงพระนครศรีอยุทธยา ครั้งนั้น ฝ่ายกรุงพระมหานครศรีอยุทธยาออกเปนพระราชไมตรี แลสมเด็จพระมหากระษัตริย์เจ้าทั้งสองฝ่ายเสด็จมาทำสัตยาธิษฐานหลั่งน้ำสิโนทกตำบลวัดพระเมรุ แล้วจึงพระเจ้าหงษาขอเอาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราเมศวรเจ้าแลช้างเผือก ๔ ช้างไปเมืองหงษา ครั้งนั้น พญาศรีสุรต่านพญาตานีมาช่วยการเศิก พญาตานีนั้นเปนขบถ แลคุมชาวตานีทั้งปวงเข้าในพระราชวัง ครั้นแลเข้าในพระราชวังได้ เอาช้างเผือกมาขี่ยืนอยู่ณท้องสนาม แล้ว