วัน ๔ ๒ฯ ๒ ค่ำ ๒ เพลาเที่ยงคืนแล้ว ๒ นาฬิกา ๙ บาด เสด็จพยุหบาตราไปตั้งทัพตำบลสามขนอน ครั้งนั้น เศิกหงษาแตกพ่ายหนีไป อนึ่ง ม้าตัวหนึ่งตกลูก แลศีศะม้านั้นเปนศีศะเดียว แต่ตัวม้านั้นเปน ๒ ตัว แลเท้าม้านั้นตัวละสี่เท้า ประดุจชิงศีศะแก่กัน.
๏ศักราช ๙๔๗ รกาศก (พ.ศ. ๒๑๒๘) พระเจ้าสาวถียกพลลงมาครั้งหนึ่งเล่า ตั้งทัพตำบลสะเกษ แลตั้งอยู่แต่ณเดือนยี่เถิงเดือนสี่ ครั้งเถิงถึงวัน ๔ ๗ฯ ๕ ค่ำ เวลารุ่งแล้ว ๔ นาฬิกาบาด เสด็จพยุหบาตราตั้งทัพไชยตำบลหล่มพลี แลณวัน ๗ ๑๐ ฯ ๕ ค่ำ เสด็จจากทัพไชยโดยทางชลมารคไปทางป่าโมก มีนกกระทุงบินมาทั้งซ้ายขวาเปนอันมากนำหน้าเรือพระที่นั่งไป ครั้นเถิงวัน ๕ ๑๔ฯ ๕ ค่ำ เสด็จทรงช้างพระที่นั่งพลายมงคลทวีปออกดาช้างม้าทั้งปวงอยู่ณริมน้ำ แลพระอาทิตย์ทรงกลด แลรัศมีกลดนั้นส่องลงมาต้องช้างพระที่นั่ง มีทรงสัณฐานประดุจเงากลดนั้นมากั้งช้างพระที่นั่ง ครั้งนั้น ตีทัพพระเจ้าสาวถีซึ่งตั้งอยู่ตำบลสะเกษนั้นแตกพ่ายไป ในปีเดียวนั้น พระมหาอุปราชายกพลมาโดยทางกำแพงเพ็ชร ตั้งทำนาอยู่ที่นั่น.
๏ศักราช ๙๔๘ จอศก (พ.ศ. ๒๑๒๙) ณวัน ๒ ๘ฯ ๑๒ ค่ำ พระเจ้าหงษางาจีสยางยกพลลงมา เถิงกรุงพระนครศรีอยุทธยาณวัน ๕ ๒ฯ ๒ ค่ำ แลพระเจ้าหงษาเข้าล้อมพระนคร แลตั้งทัพตำบลขนอนปากคู แลทัพมหาอุปราชาตั้งขนอนบางตนาว แลทัพทั้งปวงนั้นก็ตั้งรายกันไปล้อมพระนครอยู่ แลครั้งนั้น ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ แลพระเจ้าหงษาเลิกทัพคืนไป ในศักราช ๙๔๙ (พ.ศ. ๒๑๓๐) นั้น วัน ๒ ๑๔ฯ ๕ ค่ำ เสด็จโดยทางชลมารค