หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/19

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐ (ก็หาควรไม่) ด้วยเหตุว่าเปนแต่หนังสือเจ้าเมืองเมาะตะหมะ เกลือกจะเหมือนหนึ่งเมื่อศักราช ๑๑๔๖ ปี พม่ากับไทยก็ได้เจรจากันณอังงิวปลายน้ำปิลอกตำบลพระเจดีย์สามองค์ว่าจะเปนทางพระราชไมตรีจนถึงได้ให้ของตอบแทนกัน ในเดือนนั้นฝ่ายพม่าก็มาจับเอาคนทางเมืองเพ็ชรบุรีไป ๙ คน ครั้นศักราช ๑๑๔๗ ปี พระเจ้าอังวะก็ยกทัพมา ฝ่ายกรุงเทพมหานครตั้งอยู่ในกรุณาการุญแก่ประชากรพวกพลทั้งสองฝ่าย เพื่อพ้นชีวิตอันตรายอกุศลกรรม จึงให้นาขานสร้อยตองสิงสู่ซึ่งเปนพม่าด้วยกันถือหนังสือออกมาว่ากล่าวก็มิฟัง อันพม่ากับไทยทำศึกกันหานิยมมิได้ เหมือนน้ำกับน้ำมัน แล้วมีหนังสือกลับเข้ามาว่า นาขานสร้อยตองสิงสู่ออกไปเหมือนน้ำขุ่น ครั้งนี้เหมือนเอาแก้วทิ้งลงไปให้น้ำใสนั้น ถ้าจะใสจริง ชอบจะให้นาขานสร้อยตองสิงสู่ผู้ถือหนังสือเดิมถือหนังสือกลับเข้ามาถึงจะชอบ

ประการหนึ่ง ซึ่งว่า เจ้าอังวะปรารถนาโพธิญาณเมตตากรุณาแก่สัตว์ชุบเลี้ยงท้าวพระยานายทัพนายกองให้งามดี ความข้อนี้ดีชั่วก็ไว้แต่ในใจของท่านเถิด เราแจ้งอยู่แล้ว

ข้อซึ่งว่า (ถ้า) ทั้งสองพระนครปราศจากปัจจามิตรเปนทางพระราชไมตรี (ก็จะ) มีความศุขนั้น คำอันนี้เปนสัตย์จริง ๆ ฤๅจะเปนกลอุบาย ถ้าจะเปนกลอุบายแล้ว อย่าคิดเลยว่าพม่าจะลวงไทยได้ ถ้าจะเปนทางพระราชไมตรีกันนั้น จะให้สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทั้งสองฝ่ายร่วมเสวตรฉัตรกันฤๅ ฤๅจะให้แต่เสนาบดีผู้ใหญ่ผู้น้อยทแกล้วทหารทำสัตย์กัน ฤๅ