หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๒๑) - ๒๔๖๔.pdf/73

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๑

พระราชบุตรทรงพระนามชื่อว่า พระเจ้ากรุงศิริสุทโธทน์ เมื่อพระศิริมหามายาผู้เปนพระราชธิดาแห่งพระอัญชนราชราชาภิเศกด้วยพระเจ้ากรุงศิริสุทโธทน์แล้ว จึงได้พระโอรสทรงพระนามว่า พระสิทธารถราชกุมารบรมโพธิสัตว์ ครั้นพระชนมายุได้ ๑๖ พรรษา แวดล้อมเพลิดเพลินไปด้วยนางทั้งหลายทั้งปวง ๔๐, ๐๐๐ มีนางยโสธราราชเทวีเปนต้น เสวยราชสมบัติอยู่ในปราสาททั้งสาม ชื่อราม ชื่อศุภ ชื่อ สุรามปราสาท ในเมื่อพระชนมายุได้ ๒๙ ปี ได้เห็นซึ่งนิมิตรอันใหญ่ ๔ ประการ คือ เห็นคนแก่ประการ ๑ คนเจ็บประการ ๑ คนตายประการ ๑ รูปสมณะประการ ๑ แล้วได้ธรรมสังเวชสละเสียซึ่งราชสมบัติแลปราสาททองอันใหญ่ เสด็จออกไปทรงผนวชแล้วไปประพฤติซึ่งทุกรกิริยาถึง ๖ ปี ทรงชนะซึ่งมารทั้ง ๕ ประการในควงไม้พระมหาโพธิมณฑล ครั้นเมื่อได้ตรัสเปนพระพุทธเจ้า ไม่มีใครเสมอในภูมิทั้งสาม ทรงตรัสเทศนาซึ่งอมฤตยรศธรรม โปรดเวนัยสัตว์ทั้งหลายอันล่มจมอยู่ในสงสารสาคร เมื่อได้ ๔๕ พรรษา พระชนมายุภายในเต็ม ๘๐ (ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน)

ภายหลังเมื่อ (พระพุทธองค์) เสด็จเข้าสู่พระนิพพาน สาสนาก็รุ่งเรืองในมัชฌิม (ประเทศแล) สีหฬประเทศ สมเด็จพระพุทธเจ้าเห็นว่า พระพุทธสาสนาจะรุ่งเรืองยืดยาวในประเทศพม่าทั้งสอง คือ ประเทศสุนาปรัตน ประเทศตามพทีป เมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่นั้น เสด็จไปสู่พระวิหารอันมหาบุญ จุลบุญ พี่น้องคนกระทำ