หน้า:ประชุมพงศาวดาร (ภาค ๖) - ๒๔๖๐.pdf/67

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๐

ยกไปคอยต่อสู้พม่าที่จะมาทางด่านพระเจดีย์ ๓ องค์ แขวงกาญจนบุรี ทัพ ๑ ให้เจ้าพระยาอภัยราชายกไปคอยต่อสู้พม่าที่จะยกมาทางด่านแม่สอด ทัพ ๑ แต่ที่จริง คราวนั้น พม่ายกมาจากทางเมืองตนาวศรีทางเดียว

เมื่อพระเจ้าอลองพญาเห็นว่า ตีเมืองมฤท เมืองตนาวศรี ได้โดยง่ายดาย สั่งให้กองทัพน่ายกเลยเข้ามาแล้ว พระเจ้าอลองพญาจึงตกลงยกทัพหลวงตามมาทีหลัง กองทัพไทยที่ไปต่อสู้ทางนี้ พระยายมราชถือพล ๓,๐๐๐ ไปตั้งอยู่ที่แก่งตุ่ม ใต้เมืองกุย กองทัพพระยารัตนาธิเบศร์ตั้งอยู่ที่เมืองกุย พม่าตีกองทัพพระยายมราชแตกในเวลาเดียว พระยารัตนาธิเบศร์รู้ว่า ทัพพระยายมราชแตก ให้ขุนรองปลัด ชู ซึ่งคุมกองทัพอาศาสมทบลงไปจากกรุงศรีอยุทธยา ด้วยทำนองเชื่อกันว่า เปนผู้มีความรู้วิชาดี คุมกองอาศา ๕๐๐ ไปต่อสู้พม่า ได้สู้รบกันที่ตำบลหว้าขาว ริมชายทเล พวกขุนรองปลัดชูฆ่าฟันพม่าล้มตายมาก แต่ไทยน้อยตัว ลงปลายก็เหลือกำลัง ต้องแตกพ่าย พระยารัตนาธิเบศร์พอรู้ว่า ขุนรองปลัด ชู แตกอิกกอง ๑ ก็ไม่รออยู่ต่อสู้พม่า รีบหนีเข้ามากรุงศรีอยุทธยากับพระยายมราชด้วยกัน พม่าก็ตีเมืองกุย เมืองปราณ เมืองเพ็ชร์บุรี เมืองราชบุรี แลเมืองสุพรรณบุรี ได้สดวกโดยลำดับมา ด้วยไม่มีผู้ใดต่อสู้ จนกองทัพพระเจ้าอลองพญาเข้ามาตั้งอยู่ที่เมืองสุพรรณ์บุรี ข้างในกรุงจึงตกใจกันขึ้น พวกข้าราชการพากันไปทูลวิงวอนสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรให้ลาผนวชออก