ดิถีที่สิบสอง นับเบื้องน่าแต่โปฐบทบุรณมี มีอาทิตยวารเปนกำหนด จึงได้ประสูตรพระธิดาพระองค์หนึ่งซึ่งได้นับโดยลำดับว่า เปนที่ ๔ คือ สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ๚
๏ครั้งนั้น เจ้าคุณชีโพ ผู้เปนพระน้องนางของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ ได้รับอุปถัมภ์บำรุงเลี้ยง เปนเหตุให้สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ได้ทรงนับถือว่า เปนพระมารดาเลี้ยงมา ครั้นเมื่อแผ่นดินกรุงธนบุรีตั้งขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์เสด็จเข้ามาปรนิบัติในราชการ กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ กับพระภัศดา แลพระ (ฉบับตก) ก็ได้ตามเสด็จเข้ามาตั้งนิวาศฐานบ้านเรือนโรงแพอยู่ที่ตำบลกระฎีจีน ที่นั้น บัดนี้ เปนพระวิหารแลหอไตรวัดกัลยาณมิตร แพลอยลงในคลองแม่น้ำใหญ่ตรงวัดโมฬีโลกย์ข้ามไปข้างใต้ ๚
๏แต่กรมหลวงเทพหริรักษ์ซึ่งเปนพระโอรสใหญ่ของกรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์นั้น เมื่อเวลากรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาแตกทำลายนั้น ทรงผนวชเปนสามเณรตามพระอาจารย์ไปทางอื่น ได้ลาผนวชกลับมายังสกูลเมื่อมาตั้งอยู่ในตำบลนี้แล ๚
๏ฝ่ายนายฤทธิ์ บุตรเจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ เมื่ออยู่กับหม่อมบุนนาค ภรรยา มีบุตรีหนึ่งชื่อ หม่อมอำพัน ครั้นเมื่อกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยาแตกทำลายแล้ว พาบุตรพาภรรยาหนีไปเมืองนครศรีธรรมราชเข้าพึ่งอาไศรยเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ตั้งบ้านเรือนอยู่ตำบลบ้านสามอู่เหนือเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นมาประมาณทาง