หน้า:ประชุม กม ประจำศก (๐๔) - ๒๔๗๘.pdf/61

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๗

ทำไม่รู้จักกัน ครั้นพบชายหญิงราษฎรในกรุงนอกกรุงแลต่างประเทศข้าขอบขัณฑเสมาลูกค้าพานิชชาวบกชาวเรือฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ เห็นล่อลวงเอาทรัพย์สิ่งของได้ ก็แวะเข้าไปหยุดพักพูดจาจึงการเล่น ทำเป็นเถียงกันขันพนันทำแพ้ทำชนะเสียเงินให้กันต่อหน้ามิให้คนสงสัย ฝ่ายข้างผู้ได้ก็ลวงพูดจาชักชวนชายหญิงเย้ายุยั่วให้เล่น ทำพวกเข้าเงินด้วยให้หลงเสียพันพัวมัวเล่นตามทุนไปจนสิ้นเงินตราสิ่งของทองรูปพรรณหามีอันจะเสียไม่ อ้ายมีชื่อมิฟังเข้ายื้อแย่งแพรผ้ามีดพร้าจอบเสียมเครื่องอัญญมณีแลเครื่องสรรพสาตราวุธไปแบ่งปันกัน พิจารณาได้ความดังนี้ ที่ขอผู้ฟ้องว่า อ้ายมีชื่อพวกนี้เป็นผู้ร้ายตีชิงเอาทรัพย์สิ่งของไปนั้น หาจริงไม่ ครั้นทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ทรงพระราชดำริว่า ผู้เจ้าทรัพย์เป็นคนหลงโลภเจตนาจะใคร่ได้ จึงปลงใจให้ทรัพย์สิ่งของเสียโดยพนันในการเล่น ครั้นรู้สึกกายเสียดายทรัพย์กลับเอาความเท็จมิจริงมา มาผูกพันร้องฟ้องว่า ผู้ร้ายตีชิงเอาทรัพย์สิ่งของไป ให้ยากแก่ความเมืองดังนี้ เจ้าทรัพย์ก็มีความผิดอยู่ ซึ่งอ้ายมีชื่อเป็นพาลคิดอ่านกันล่อลวงผู้ให้เล่นการพนันเป็นอุบายโกหกมารยาได้ทรัพย์ไปแบ่งกันเลี้ยงชีวิตก็เป็นมิจฉาชีวะหาสุจริตไม่ จำจะให้มีโทษด้วยกันทั้งสองฝ่าย จะได้เข็ดหลาบไปภายหน้า จึงมีพระราชโองการมาณพระบันฑูรสุรสิงหนารถดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสั่งว่า ให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนผู้เจ้าทรัพย์กับอ้ายมีชื่อคนละสามสิบที เรียกนายประกันทานบนไว้ แลทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสริฐ ตั้งพระทัยจะให้เขตต์อณาประเทศราษฎรทั้งปวงมีอุตสาหะทำมาหากินโดยซื่อตรง มิให้คิดกระทำบัง-