หน้า:ประมวลกฎหมาย รัชกาลที่ ๑ (๓) - ๒๔๘๑.pdf/80

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๙
กฎ ๓๖ ข้อ

เมืองกำแพงเพ เมืองพิไชย เมืองสังคโลก เมืองตนาว เมืองนคร
เมืองพัตลุง ให้เอาค่าเชิงเดิร ค่าเบี้ยเลี้ยง แลครั้น
 
กรมการส่งจำเลยให้แก่ผู้ถือตรา ถ้าความรับสั่ง ให้ผู้ถือตรา
เอาค่าลดจำแต่ ถ้าฟ้องโรงสาน ให้ผู้ถือตราเอาค่าลด
 
จำแต่ อย่าให้เรียกเอาล้ำเหลือนอกกว่านั้น
 
 กฎให้ไว้ณวัน + ค่ำ จุลศักราช ๑๐๗๕ ปีมะเสง เบญศก
22
 ๒๒ อนึ่ง ออกหลวงมหามนตรีรับพระราชโองการใส่เกล้าฯ
สั่งว่า ผู้ใดจะร้องฟ้องด้วยเนื้อความสิ่งใด ๆ ให้ร้องฟ้องแก่
มุนนายอนาพญาบาลตามกระทรวงก่อน ถ้ามุนนายอนา
พญาบาลมิรับทุระ จึ่งให้ฟ้องแก่ลูกขุนณศาลา ถ้าลูกขุน
ณศาลามิรับ จึ่งให้ทำฎีกาทูลเกล้าทูลกระหม่อม[1] ถวาย
 รับสั่งให้ไว้ณวัน ๑๒+ ค่ำ จุลศักราช ๑๐๗๕ ปีมะเมีย
ฉ้อศก
23
 ๒๓ อนึ่ง พระณหัวเจ้าท่านโกษาธิบดีรับพระราชโองการ
ใส่เกล้าฯ สั่งว่า ถ้าราษฎรหมู่ใดกรมใด ๆ จร้องฟ้อง
ศุขทุกขสิ่งใด ๆ ให้ขุนโรงขุนสานทังปวงพิจารณาดูในหนังสือ
ฟ้องนั้นให้หมั้นคง ถ้าเหนในหนังสือฟ้องนั้นผูกพันเอาความ
มิจริงมากล่าวโทษเขา แลมิได้เปนตระทรวงของตัวได้ว่า

  1. ทั้งสองฉะบับเขียน กระหมอม
ม.ธ.ก.