หน้า:ประวัติ - ปิติ วาทยะกร - ๒๕๑๒.pdf/75

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

๗ วันในตอนเช้า (ซึ่งข้าพเจ้าจำได้แน่นอนว่า เป็นวันจันทร์) ข้าพเจ้าก็เตรียมตัวมาปฏิบัติราชการตามเคยที่สวนมิสกวัน ขึ้นรถรางประจำทางจากถนนสุริยวงศ์มาเปลี่ยนรถที่สี่แยก เอส. เอ. บี. และในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางอยู่ในรถรางสายนี้ ทำนองเพลงก็บังเอิญปรากฏขึ้นมาในสมองของข้าพเจ้าอย่างครบถ้วน ข้าพเจ้าลงจากรถรางตรงไปยังที่ทำการที่สวนมิสกวัน ก็เริ่มจดบันทึกทำนองเพลงที่จำได้ลงบนแผ่นกระดาษโน้ตเพลงทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ลืม ข้าพเจ้าตรงไปที่ Piano ทดลองการประสานเสียง ก็พอดีเพื่อนข้าพเจ้าเดินเข้ามาตามกำหนด ต่อเมื่อข้าพเจ้าได้ดีด Piano ให้ฟังแล้ว ท่านก็พอใจเป็นอย่างยิ่ง เลยร้องขอให้ข้าพเจ้าแยกแนวและปรับเพลงนี้เข้าวงดุริยางค์ทหารเรือให้ทันการบรรเลงประจำสัปดาห์ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม คือ วันพฤหัสต่อมา เพราะในเวลาที่มีการร่างรัฐธรรมนูญนั้น ทางการจัดให้มีการบรรเลงดนตรีเป็นประจำทุก ๆ วันพฤหัสตอนบ่ายเพื่อการรื่นเริงของสมาชิกสภา เพลงที่ข้าพเจ้าประพันธ์นี้ก็จะได้ถือโอกาสนำออกบรรเลงเพื่อทดลองความเห็นของสมาชิกทั่ว ๆ ไปด้วย ข้าพเจ้ารับรองว่า จะจัดทำให้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกันนั้น ก็ได้กำชับเพื่อนของข้าพเจ้าอีกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ให้สงวนนามของข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้ประพันธ์ไว้อย่างเด็ดขาด ท่านก็รับปากไว้อย่างแม่นมั่น

ครั้นต่อมาในวันศุกร์รุ่งขึ้นตอนเช้า ข้าพเจ้าจับหนังสือพิมพ์ศรีกรุงซึ่งเคยรับเป็นประจำ ก็ได้ประสพกับข่าวที่ทำให้ต้องอกสั่นขวัญหาย ข่าวนั้นแจ้งว่า เมื่อวานนี้ ได้มีการทดลองฟังการบรรเลงทำนองเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่ ยกย่องว่า เป็นบทเพลงที่ไพเราะคึกคักน่าฟัง ทั้งกระทัดรัดกินเวลา บรรเลงเพียง ๔๕ วินาที เหมาะสมที่จะยึดถือเอาเป็นเพลงชาติได้ ตอน

– 73 –