หน้า:ประวัติ - ปิติ วาทยะกร - ๒๕๑๒.pdf/77

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ท่านนายกผู้นี้ก็ได้รีบชี้แจงไปยังเสนาบดีกระทรวงวังเรื่องการประพันธ์เพลงนี้เป็นความดำริห์ของท่านและสมาชิกสภาร้องขอมายังข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้ามิได้ทำขึ้นแต่โดยลำพัง ทั้งเพลงนี้เพียงอยู่ในขั้นทดลองเท่านั้น ยังมิได้อุปโหลกขึ้นเป็นเพลงชาติ และก็มิได้ลบล้างเพลงสรรเสริญพระบารมีซึ่งเป็นเพลงของพระเจ้าแผ่นดินโดยเฉพาะ จะอย่างไรก็ตาม พอถึงเดือนตุลาคม ศกนั้นเอง ข้าพเจ้าก็ถูกสั่งปลดออกจากราชการรับเบี้ยบำนาญฐานรับราชการมานานครบ ๓๐ ปี แม้ในเวลานั้น ข้าพเจ้ามีอายุได้ ๔๙ ปีเท่านั้น เงินเดือน ๕๐๐ บาทต่อเดือนของข้าพเจ้า ก็ถูกแบ่งออกครึ่งหนึ่งเป็นบำนาญ อีกครึ่งหนึ่งเป็นเงินเดือน โดยให้รับราชการต่อไปในอัตราเงินเดือนใหม่นี้

เมื่อเพลงนี้ได้แพร่หลายออกไปสู่ยังประชาชนแล้ว ต่อมา ทางการก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่งเพื่อดำเนินงานการประกวดเพลงชาติขึ้น ซึ่งได้มีผู้เสนอเข้าแข่งขันกันเป็นอันมาก ครั้งสุดท้าย ได้มีมติที่ประชุมกรรมการรับรองเพลงของข้าพเจ้าเป็นเพลงชาติสืบไป ส่วนเนื้อร้องนั้นเป็นของขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์) และมหาฉันท์ ขำวิไล ภายหลังต่อมา เมื่อประเทศสยามได้ถูกเปลี่ยนนามเป็นประเทศไทยแล้ว ก็ได้มีการแก้เนื้อร้องใหม่ดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้ (แต่ในความเห็นของข้าพเจ้า เนื้อใหม่นี้ไม่สู้จะสอดคล้องกับทำนองเท่าเทียมกับเนื้อร้องเดิม) โดยเฉพาะทำนองเพลงชาติที่ข้าพเจ้าได้ประพันธ์ขึ้นนี้นั้น ข้าพเจ้าได้มอบไว้เป็นสมบัติของชาติสืบไป ดังได้รับการยกย่องจากรัฐบาลดังสำเนาต่อไปนี้.-

– 75 –