อื้ออึงโกลาหล ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ก็สั่งให้นางสุวรรณคันธาถือภาชนะทองกลับมาสู่ปราสาท ถอดรูปกายออกจากเศียร แล้วก็เหาะขึ้นไปในอากาศ ไปเฝ้าสมเด็จอมรินทร์ ถวายบังคมแล้วจึงทูลว่า ข้าแต่ท้าวเทวราช พระองค์ต้องประสงค์ถามปัญหาอะไรก็จงถามเถิด เมื่อท้าวสักกเทวราชจะถามปัญหา ๔ ข้อ จึงกล่าวคาถาว่า
- โก อชรามโร ตรุโณ นิจฺจํ
- โก เกนตฺเถน ราชาติ สมฺมตา
- โก เกน รโถติ วุจฺจติ โลเก
- โก จ อิธ โชติ ปรสฺมึ โชตโก ฯ
แปลว่า สิ่งอะไรที่ไม่แก่ไม่ตาย เปนหนุ่มอยู่เปนนิตย สิ่งอะไรที่สมมติว่า เปนพระราชา เพราะเหตุอะไร สิ่งอะไรที่เรียกว่า รถ เพราะเหตุอะไร สิ่งอะไรที่รุ่งเรืองในโลกนี้ แลส่องสว่างในโลกอื่น
เนื้อความของปัญหาเหล่านี้ปรากฎแก่พระโพธิสัตว์เหมือนพระจันทร์เต็มดวงในพื้นท้องฟ้า ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ เมื่อจะวิสัชนาปัญหาข้อแรก จึงกล่าวเปนคาถาว่า
ตณฺหา อชราธมฺมมฺปตฺโต | ตํมูลโก นนฺทิราโค | |
อนวยฺโย จ โลภาทิ | มจฺฉรีปิ จ น มรณํ ฯ |
แปลว่า ตัณหา แลนันทิราคซึ่งมีตัณหานั้นเปนมูล ย่อมถึงแล้วซึ่งความไม่แก่ กิเลศ มีโลภเปนต้น ก็ไม่รู้จักเสื่อม อนึ่ง ความตระหนี่ก็ไม่รู้จักตาย