สีทอง จริงอยู่ ความประสงค์ของพระสัพพัญญูโพธิสัตว์ทั้งหลายย่อมสำเร็จได้โดยหมาย เมื่อพระโพธิสัตว์อธิษฐานให้กายเข้าไปอยู่ในหัวแล้วก็คลอดจากครรภ์มารดา นางมารดาเห็นลูกมีแต่หัว ก็ละอายแก่มหาชนที่มีลูกผัวเสมอกัน จึงซ่อนเลี้ยงหัวนั้นไว้แต่ในห้องมิให้คนทั้งหลายเห็น นางมารดานั้นมีโคกระบืออยู่บ้าง พอเวลาเช้า นางบริโภคอาหารแล้ว จึงอาบน้ำให้ลูกรัก วางศีร์ษะไว้ในห้องหนึ่ง แล้วก็ปล่อยโคกระบือให้ไปกินหญ้า ตนก็ต้องตามไปเลี้ยงรักษาด้วย เวลาเย็น ก็ไล่ต้อนกลับมาเข้าคอก ตรวจตรานับเสร็จแล้ว ก็ขึ้นเรือน วางย่ามผ้าไว้ แล้วก็อาบนํ้ำกินเข้า เอาน้ำรดศีร์ษะลูกรัก แล้วจุมพิตเชยชม เอนกายลงนอน วางศีร์ษะลูกไว้ที่อก แล้วก็พิลาปคร่ำครวญเปนคาถาว่า
หาหา ตาต ปิยปุตฺต | หาหา ตาต เอกายน | |
ปิตา ตว กาลกโต | ตฺวํ อนาโถ เอกโก วสิ | |
อนาถาหํ นิญาติกา | วนํ คนฺตฺวา โครกฺขณตฺถาย | |
อารกฺขสิ ตํ เอกิกํ | ปหาย คจฺฉามิ วนํ | |
เกน ปาเปน นิกาโย | น หตฺถปาโท สีโสว | |
โก ปฏิสรโณ มม | เอกาว อนาถา ชาตา ฯ |
แปลว่า หาหา พ่อลูกรัก หาหา พ่ออยู่คนเดียว พ่อของเจ้าตายเสียแล้ว เจ้าต้องอยู่คนเดียวอนาถา แม่ก็เปนคนอนาถา หาญาติมิได้ ต้องไปเลี้ยงโคในป่า เจ้ารักษาตัวเจ้าคนเดียว แม่ทิ้งเจ้าไปป่า บาปกรรมอะไร เจ้าจึงไม่มีกาย ไม่มีมือเท้า มีแต่หัว ใครจะเปนที่พึ่งของแม่ แม่เปนคนอนาถาอยู่คนเดียว นางรำพรรณฉนี้แล้วก็เคลิ้มหลับไป