หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/13

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
10
ปัญญาสชาดก

นางเทวธิดาที่จุติจากโลกนั้นมาบังเกิดในครรภ์นางอัคมเหษีที่หนึ่ง ครั้นนางเจริญวัยได้ ๑๖ ปี มีรูปทรงสัณฐานผิวพรรณอันงามอุดมอย่างยิ่ง เปรียบประดุจดังว่านางเทพอับสรในสวรรค์

เมื่อท้าวสักกเทวราชส่องทิพเนตรเห็นนางนั้น จึงเสด็จลงจากเทวโลก แล้วไปสู่สำนักพระยาสัตตกุฏราช ประดิษฐานอยู่ณอากาศ แสดงรูปสิริให้เห็นปรากฎ แล้วกล่าวสุนทรพจน์ว่า ดูกรพระยามนุษย์ เรามาหาท่านบัดนี้ เพื่อจะขอธิดาท่านคนหนึ่ง ท่านจงให้ธิดาคนที่เกิดในนางอัคมเหษีที่หนึ่งแก่เราเถิด เราจะพาเอาไปให้แก่มาณพหน่อพุทธางกูรผู้มีบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ ต่อไปมาณพหน่อพุทธางกูรนั้นจะได้ครองราชสมบัติในเมืองพาราณสี จักได้เปนพระราชามีบุญญาธิการอันล้ำเลิศ ธิดาของท่านนั้นก็จักได้เปนอัคมเหษี

พระยาสัตตกุฏราชได้ทรงฟัง ก็ประคองอัญชลี มีพระหฤทัยโสมนัส จึงมีพระราชดำรัสตอบเทวโองการว่า ข้าแต่ท้าวมฆวานเทวราช ขอพระองค์จงเปนที่พึ่งของข้าพเจ้า จงพาธิดาของข้าพเจ้าไปตามพระประสงค์ที่ได้ทรงเห็นชอบ แล้วจงทรงประกอบให้เปนคุณเปนประโยชน์นั้นเถิด

ท้าวสักกเทวราชได้รับอนุญาตแล้ว ก็เข้าอุ้มราชธิดานั้นเหาะมาโดยอากาศ ครั้นมาถึงที่นาของพากุลกุมารโพธิสัตว์ จึงนฤมิตไข่ฟองหนึ่งใหญ่ประมาณเท่าผลฝัก มีสัณฐานภายในอ่อนนุ่มดุจปุยนุ่น ในภายในของไข่นั้นบริบูรณด้วยอาภรณ์เครื่องประดับแลชิ้นเนื้อโภชนาหารต่าง ๆ อันเปนทิพย์เปนต้น เมื่อราชธิดานั้นปราถนาสิ่งใด ก็ได้สิ่งนั้น