หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/39

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
36
ปัญญาสชาดก

ในกาลนั้น พระเจ้าสัตตกุฏราชจึงมีรับสั่งแก่พระโพธิสัตว์ว่า ดูกรพากุลกุมาร เจ้าอาจยกสหัสสถามธนูนี้ขึ้นได้หรือไม่ ถ้าเจ้ามีกำลังสามารถอาจยกธนูนี้ขึ้นได้ ก็จงยกขึ้นให้เราเห็นประจักษ์ในกาลนี้

พระโพธิสัตว์จึงทูลว่า ข้าแต่สมมติเทวราช ข้าพระองค์สามารถจะยกขึ้นถวายให้ทอดพระเนตรได้ ทูลดังนี้แล้วก็ถวายบังคมพระเจ้าสัตตกุฏราช จึงลุกขึ้นจากอาสน์ไปยกสหัสสถามธนูขึ้น ดีดสายเสียงสนั่น เสียงสายธนูที่พระโพธิสัตว์ดีดนั้นประดุจดังว่าเสียงอัสนีอันบัลลือลั่นไปในอากาศ แล้วพระโพธิสัตว์ก็เอาลูกธนูขึ้นพาดยิงไป ลูกธนูนั้นแล่นไปตลอดจักรวาฬ แล้วก็กลับเข้ามาสู่แหล่ง

พระเจ้าสัตตกุฏราชทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็มีพระทัยโสมนัสเปนอย่างยิ่ง แลมีพระราชประสงค์จะทดลองบุญญานุภาพของพระโพธิสัตว์อีก จึงมีรับสั่งให้อำมาตย์นำเอาเกวียนมาสองเล่ม แล้วให้เอาเมล็ดงามาบันทุกลงในเกวียนเล่มหนึ่งให้เต็ม เกวียนอีกเล่มหนึ่งนั้นทำให้ว่างเปล่า แล้วมีพระราชดำรัสแก่พระโพธิสัตว์ว่า ดูกรพากุลกุมาร เจ้าจงนำเอาเมล็ดงาออกจากเกวียนเล่มนี้ แล้วบันทุกลงในเกวียนเล่มที่ว่างเปล่าในกาลนี้

พระโพธิสัตว์ทูลฉลองพระราชโองการว่า ข้าพระองค์จะฉลองพระเดชพระคุณตามความสามารถ แล้วตั้งสัตยาธิษฐานในใจว่า ถ้าข้าพเจ้าจะได้ตรัสเปนพระพุทธสัพพัญญูในอนาคตกาลภายหน้าไซร้ ขอให้เทพดาทั้งหลายลงมาช่วยข้าพเจ้าในกาลนี้