หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/59

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๔๗

กราบทูลว่ามิใช่พระ เป็นผีเขาใช้ให้มาดูบ้านเมือง จะขอทำถวาย พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงยอม จึงให้ทำสายสิญจน์มงคล เครื่องเส้นเข้าเปลือกเข้าสารเสร็จแล้ว ก็ลงไปริมน้ำอ่านโองการ ซัด เข้าเปลือกเข้าสารสายสิญจน์วงพระนั้น ๆ ก็จมน้ำไป วุ่นวายเป็นอลหม่านขึ้นกลัวว่าจะเข้าคลองในเมือง จึงสั่งให้สวดพระพุทธมนต์สายสิญจน์กันไว้ทุกคลอง พระนั้นเข้ามิได้ ไปอยู่บางกะจะ ตาแก่นั้นตามไปได้กลิ่น บอกแก่ผู้กำกับว่าอยู่นี้ แต่จะขึ้นไปเมืองเหนือ จึงสั่งให้ทำจั่นดักไว้คลองสะแก แต่เที่ยวหากันอยู่นั้นถึง ๓ วัน ทันกันเข้าที่ปากน้ำประสบจับได้ มัดด้วยสายสิญจน์ ลงไปกราบทูลว่าได้แล้ว จะจัดแจงฆ่าถ่วงเผานั้นหามีพระเกียรติยศไม่ จะได้กลับคืนขึ้นไปหาเจ้าของ พระเจ้าอยู่หัวก็โปรดบัญชาตาม จึงสั่งให้ต่อโลงตอกหมันยาชันให้มั่นคงแล้ว เอาผีใส่ลงในโลง ผนึกยาชันมิให้น้ำเข้าได้ แล้วเอาสายสิญจน์วงพันเส้นวักแล้ว ก็อ่านโองการกำชับว่าใครจะมาทุบตีอย่าให้ออก จงไปถึงเจ้าของ ก็ยกโลงลงน้ำลอยทวนน้ำขึ้นไปถึงเมืองหงษาวดี พระเจ้าอยู่หัวให้หาตาผู้นั้นมาจะปูนบำเหน็จก็หาพบไม่ จุลศักราช ๖๗๑ ปีเถาะเอกศก พระองค์ทรงสร้างวัดกุฎีดาววัด ๑ พระอัครมเหษีทรงสร้างวัดมเหยงค์วัค ๑ พระองค์อยู่ในราชสมบัติ ๙๗ ปี พระองค์สวรรคต ศักราช ๖๗๒ ปีมโรงโทโศก

พระยาเชียงทองเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ว่ายังมีพระอาจารย์พระองค์หนึ่งมาถวายพระพรว่า สมเด็จพระพุทธเจ้ายังทรงพระทรมานอยู่นั้น เสด็จพระราชดำเนินไปสู่ลังกาทวีป เป็นเหตุด้วยพระภิกขุสององค์วิวาทกันสมเด็จพระพุทธเจ้าเสด็จออกจากเมืองลังกา ทวีปมาสู่พระเชตุพน