หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/76

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๔

เกาะแล้ว จึงบุกป่าโสนเข้าไปกลางเกาะ เห็นดาบศตนหนึ่งอยู่ในใต้ต้นไม้ พระยาก็ตรัสปราไสด้วยดาบศ และพระยาจึงถามว่าเจ้ากูมาอยู่ที่นี้ ช้านานและฤๅ ๆ พึ่งจะมาอยู่ พระดาบศจึงบอกว่าเรามาอยู่ที่นี้ แต่ครั้งพระพุทธเจ้ายังทรมานมีพระชนม์อยู่ อายุเราได้ ๑๕๐ ปีแล้ว และบาจารย์ เราสองคน คนหนึ่งไปตายในเขาสรรพลึงค์ คนหนึ่งไปตายในพนมภูผาหลวง ยังแต่เราผู้เดียวนี้และ เมื่อพระพุทธเจ้ามาถึงนี่ เราได้นิมนต์ให้นั่งบนตอตะเคียน อันลอยมาค้างอยู่ในที่นี่ เราก็ถวายมะขามป้อมสมอแก่พระพุทธเจ้า ๆ จึงแย้มพระโอษฐ พระอานนท์จึงทูลถามพระพุทธเจ้า ๆ จึงมีพระพุทธฎีกาตรัสแก่พระอานนท์ว่า ฐานที่นี้จะเป็นเมืองอันหนึ่ง แต่เรามาหกโยชน์ เขาก็เรียกว่าศรีอโยทธยา พระพุทธเจ้ามีพระบัณฑูรไว้ดังนี้ ครั้นพระดาบศบอกแล้ว พระยายินดีนักหนา พระยาเสด็จไปเลียบดูที่จะตั้งพระราชวังและเรือนหลวง และตั้งกำแพงและค่ายคูไปรอบเมือง และแต่งพระราชวังแล้ว พระองค์จึงเสด็จไปสู่เมือง กับด้วยสนมชาวแม่ แพทย์พราหมณาจารย์ทั้งหลายเข้ามาเมือง

 และสมเด็จท้าวอู่ทองเมื่อเข้าไปในเมืองวันนั้น พระดาบศยังเข้าฌานสมาบัติบูชากูณฑ์ใต้ต้นไม้ สถานนอกอาศรม ครั้นพระยาไปพระดาบศก็ออกจากฌานในวันนั้น ครั้นณวันอาทิตย์เดือนอ้ายขึ้นหกค่ำปีมะโรงโทศกเพลาเช้า พระดาบศจึงเขียนรูปเมืองด้วยถ่านเพลิง ทิ้งเพลิงขึ้นไปในอากาศตกลงมา และบลิ้นออกเป็นทางสามแพร่ง แสดงให้เป็นอุบัติเหตุว่า ผู้ใดเกิดในที่นั้นย่อมมุสาวาท ความจริงน้อยไป และพระยาอู่ทองได้ยินแล้วก็กำหนดไว้แต่ในใจ และพระดาบศจึงบอกแก่พระยาอู่ทองว่า เราจะ