หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).djvu/100

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๗

ฝ่ายสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าตรัศแก่มุขมนตรีว่า ทหารหงษายังกำลังกล้ารื่นเริงอยู่ ทั้งเสบียงอาหารก็ยังไม่ขัดสน จำจะรักษามั่นหน่วงไว้คิดการเดือน คอยทัพเมืองพระพิศณุโลกซึ่งจะลงมาขนาบนั้นด้วย แล้วจะคิดเอาปืนใหญ่ล้างค่ายทำลายความคิดให้อ่อนลง จึงค่อยคิดการเอาไชยชำนะเมื่อภายหลัง เห็นจะได้โดยง่าย มุขมนตรีทั้งหลายก็เห็นด้วย จึงให้เชิญปืนนารายน์สังหารลงสำเภาฉ้อขึ้นไปทางบ้านป้อม แต่งทัพบกป้องกันสองฝั่งฟากขึ้นไปถึงขนอนปากคู ทหารรามัญมาตั้งกองร้อยคอยเหตุอยู่ก็เอาข่าวเข้าไปทูลแก่พระเจ้าหงษาวดีว่า ชาวพระนครฉ้อสำเภาขึ้นมา มีทัพบกป้องกันสองฝั่งฟาก เห็นทีจะบรรทุกปืนใหญ่ขึ้นมาล้างค่าย ทูลยังมิขาดคำ ชาวพระนครยิงปืนนารายน์สังหารไป กระสุนตกลงในค่ายใกล้พลับพลาสมเด็จพระเจ้าหงษาวดี ๆ ให้เอากระสุนปืนมาสรวงพลี แล้วให้เลิกค่ายไปตั้งค่ายหลวงณพุทเลา อยู่สามวัน สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีเสด็จทรงช้างพระที่นั่งกระโจมทองยกพลกองหลวงออกจากค่ายข้ามโพธิ์สามต้นมาตามทุ่งพะเนียดเสด็จยืนช้างอยู่ณวัดสามพิหาร ตรัศให้พระมหาอุปราชาต้อนพลเข้าหักพระนคร จึงพระยารามให้เอาปืนนารายน์สังหารลงใส่สำเภาไม้รักแม่นางไอ่ขึ้นไปยิงค่ายสมเด็จพระเจ้าหงษาวดี ปืนถีบท้ายสำเภาจมลง กระสุนปืนขึ้นไปถูกกิ่งพระมหาโพธิใหญ่ประมาณสามกำเศษขาดตกลงใกล้ช้างพระที่นั่งสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีประมาณ ๓ วา ขณะนั้น ชาวป้อมมหาไชยก็ยิงปืนใหญ่ระดมมาต้องพลหงษาวดีตายมากนัก จะปล้นเอาพระนครไม่ได้ สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีก็เสด็จยกทัพกลับยังพลับพลา.