ที่บวชอยู่นั้นจะเปนเจ้าแผ่นดินได้ ขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ จึงว่า ถ้าฉนั้น เราจะไปเฝ้าพระเทียรราชา ปฤกษาให้เธอรู้ จะได้ทำด้วยกัน แล้วขุนพิเรนทรเทพ ขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ ก็พากันไปยังวัดราชประดิษฐาน เข้าไปเฝ้าพระเทียรราชา นมัสการแล้วจึงแจ้งความว่า ทุกวันนี้ แผ่นดินเปนทุรยศ ข้าพเจ้าทั้งสี่คนคิดกันจะจับขุนวรวงษาธิราชฆ่าเสีย แล้วจะเชิญพระองค์ลาผนวชขึ้นครองศิริราชสมบัติ จะเห็นประการใด พระเทียรราชาก็เห็นด้วย ฝ่ายขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ จึงว่า เราคิดการทั้งนี้เปนการใหญ่หลวงนัก จำจะไปอธิษฐานเสี่ยงเทียนเฉภาะภักตรพระพุทธปฏิมากรเจ้า ขอเอาพระพุทธคุณเปนที่พำนัก ให้ประจักษ์แจ้งว่า พระเทียรราชากอปรด้วยบุญบารมีจะเปนที่สาสนูปถัมภกปกป้องอาณาประชาราษฎรได้ฤๅมิได้ประการใดจะได้แจ้ง พระเทียรราชาก็เห็นชอบด้วย ขุนพิเรนทรเทพจึงว่า เราคิดการใหญ่หลวงถึงเพียงนี้ อนึ่ง ก็ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ถ้าเสี่ยงเทียนมิสมดังเจตนา จะมิเสียไชยสวัสดิมงคลไปฤๅ ถ้าไม่เสี่ยงเทียนตก จะไม่ทำฤๅประการใด ว่าแล้วต่างคนก็ต่างไป ครั้นค่ำลงวันนั้น ฝ่ายขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ พระเทียรราชา ก็ชวนกันฟั่นเทียนสองเล่ม ขี้ผึ้งหนักเท่ากัน ด้ายไส้นั้นนับเส้นเท่ากัน เล่มเทียนสั้นยาวเสมอกัน แล้วก็พากันไปณอุโบสถวัดป่าแก้ว ฝ่ายพระเทียรราชากราบถวายนมัสการพระพุทธปฏิมากรเจ้าโดยเบญจางคประดิษฐ แล้วจึงกระทำเสี่ยงวจีสัจจาธิษฐานว่า ปางเมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถเจ้ายังเสด็จสถิตย์เที่ยวโปรดสัตวอยู่ ย่อมยังโลกอันมีความวิมุติให้สันดานบริสุทธิสิ้นสงไสยด้วย
หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).djvu/83
หน้าตา