ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๓).djvu/395

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๕๐

ไว้ แลคอยตัดลำเลียงจากกองทัพหลวงมิให้ส่งเสบียงเข้าไปในเมืองพิศณุโลกได้ แต่รักษาเมืองมาถึง ๓ เดือนเศษจนเสบียงอาหารในเมืองหมดลง ผู้คนอดอยากระส่ำระสาย จึงจำเปนต้องทิ้งเมืองพิศณุโลก ตีหักค่ายพม่าออกไปได้ทางด้านตวันตก ไปชุมนุมทัพอยู่ที่เมืองเพ็ชร์บูรณ์ ครั้งที่ ๙ ปีวอก อัฐศก จุลศักราช ๑๑๓๘ เสด็จเปนแม่ทัพยกไปตีหัวเมืองลาวตวันออก ได้เมืองนครจำปาศักดิ์ เมืองสีทันดร เมืองอัตปือ แลได้เมืองเขมรป่าดงหลายเมือง คือ เมืองตลุง เมืองสุรินทร์ เมืองสังข เมืองขุขัน เปนต้น ได้เลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเปนสมเด็จเจ้าพระยามหากระษัตริย์ศึก พิฦกมหิมา ทุกนคราระอาเดช นเรศวรราชสุริยวงษ์ องค์บาทมุลิกากร บวรรัตนปรินายก มีเครื่องยศอย่างเจ้าต่างกรม ในปีรกา นพศก จุลศักราช ๑๑๓๙ พระชนม์ได้ ๔๑ พรรษา ครั้งที่ ๑๐ เมื่อปีจอ สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๑๔๐ เสด็จเปนแม่ทัพยกไปตีเมืองล้านช้าง ตีได้เมืองเวียงจันทน์แลเมืองขึ้น แลได้เมืองหลวงพระบางมาเปนข้าขอบขัณฑเสมาด้วย ในครั้งนี้ได้ทรงเชิญพระพุทธปฏิมาแก้วมรกฎแลพระบางลงมากรุงธนบุรี ครั้งที่ ๑๑ เสด็จเปนแม่ทัพออกไปปราบปรามจลาจลในเมืองเขมร ทำการยังไม่ทันตลอด พอได้ทรงทราบข่าวว่า เกิดเหตุจลาจลขึ้นในกรุงธนบุรี ด้วยเจ้ากรุงธนบุรีเสียพระสติ กระทำการกดขี่สมณะแลข้าราชการอาณาประชาราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนร้ายแรง ราชการผันแปรป่วนปั่นไปทั้งพระนคร ก็เสด็จยกกองทัพกลับจากเมืองเขมรเข้ามาถึงกรุงธนบุรีเมื่อณวันเสาร์ เดือนห้า แรม