หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/118

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๘๑

ครั้นเห็นทัพไทยไม่ได้เมืองอังวะล่าทัพกลับมาดังนั้น ก็กลัวพระเจ้าอังวะ จึงคิดอ่านกันแยกกองทัพหนีไปโดยทางเมืองเชียงใหม่ เจ้าพระยาโกษาแจ้งเหตุดังนั้น ก็สั่งให้พระยากำแพงเพ็ชรแลพระยารามเดโชถือพลเมืองเหนือทั้งหลายสองหมื่นให้ยกพลไปตามกองทัพลาวเชียงใหม่อันหนีไปนั้นเอาตัวให้จงได้ แล้วก็ยกกองทัพทั้งปวงล่วงรามัญประเทศมายังพระมหานคร แลแยกกันมาโดยทางอันไปนั้น ส่วนพม่าชาวเมืองอังวะทั้งหลายแต่กลัวทัพไทยอยู่มิอาจออกออกจากเมืองได้นั้นก็ช้านานจนกองทัพไทยล่าไปกว่าสิบวันแล้วจึงค่อยรู้ว่า กองทัพไทยล่าไปแล้ว ก็มิอาจสามารถจะมาติดตามได้.

ฝ่ายแสนท้าวพระยาลาวชาวเมืองใหม่ทั้งหลายซึ่งแยกทัพหนีไปนั้นก็รีบไปทั้งกลางวันกลางคืนตราบเท่าถึงเมืองเชียงใหม่ แลขึ้นเฝ้าพระยาแสนหลวงกราบทูลประพฤดิเหตุทั้งปวงให้ทราบสิ้นทุกประการ พระยาแสนหลวงเจ้าพระนครเชียงใหม่ทราบเหตุดังนั้นก็สดุ้งตกใจกลัวพระเจ้าอังวะยิ่งนัก จึงสั่งให้ท้าวพระยาเสนาลาวทั้งหลายให้ตรวจจัดทหารขึ้นประจำรักษาน่าที่เชิงเทินปราการโดยรอบ กอปรด้วยเครื่องสรรพยุทธปืนใหญ่ปืนน้อยพร้อมเสร็จ แลป้องกันเมืองเปนสามารถ คอยกองทัพไทยอันจะยกมาติดตามนั้น ส่วนกองทัพพระยากำแพงเพ็ชรแลพระยารามเดโชก็ยกติดตามทัพลาวไป ครั้นไม่ทันที่กลางทางแล้ว ก็ยกตามไปถึงเมืองเชียงใหม่ เห็นชาวเมืองขึ้นประจำรักษาน่าที่เชิงเทินแลปิดประตูเมืองอยู่ก็รู้ว่า พระยาแสนหลวงกลับเปนขบถแขงเมืองจะต่อรบ จึงขับพลทหารเข้าตั้งค่ายล้อมเมืองไว้ แล้วแต่งหนังสือส่งเข้าไปในเมืองเพื่อจะให้รู้เหตุตระหนักแน่ ในหนังสือนั้นว่า กอง