หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/129

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๙๒

แลให้ตกแต่งค่ายคูปักขวากหนามตามทำนองศึกพร้อมเสร็จ ส่วนกองทัพไทยก็ยกเข้าตีค่ายลาวทั้งหลายอันออกมาตั้งรับนั้น แลได้รบพุ่งกันถึงโรมรันฟันแทงทุก ๆ ตำบล พลลาวต่อรบต้านทานมิได้ ก็แตกฉานไปจากค่ายแลพ่ายหนีกลับเข้าเมืองเชียงใหม่ พระยาแสนหลวงเจ้าเมืองก็ให้แสนท้าวเสนาลาวทั้งปวงตรวจจัดพลทหารขึ้นประจำรักษาน่าที่เชิงเทินปราการโดยรอบ ประกอบด้วยเครื่องสรรพาวุธปืนใหญ่ปืนน้อยทั้งปวงกันเมืองไว้ แลกองทัพไทยได้ค่ายรายทางทั้งหลายแล้วก็ยกติดตามเข้าไปตั้งค่ายล้อมถึงชานเมือง จึงเจ้าพระยาโกษาธิบดีแม่ทัพหลวงก็ให้พลทหารก่อกำแพงโอบเมืองเข้าไว้กึ่งหนึ่งในด้านข้างทักษิณแห่งเมืองเชียงใหม่นั้น แล้วก็ให้ตั้งค่ายหลวงแลค่ายน่าทั้งหลายล้อมอยู่ในที่นั้น ส่วนพระยาแสนหลวงเจ้าเมืองเชียงใหม่ก็ให้ท้าวพระยาเสนาลาวยกกองทัพออกไปตีทัพไทยอันมาตั้งล้อมอยู่นั้นเปนหลายครั้ง พลทหารไทยเข้มแขงในการสงครามยิ่งนัก มิได้ท้อถอย แลได้ยุทธนากันเปนสามารถ พลลาวต้องสาตราวุธบาดเจ็บล้มตายก็มาก มิอาจต้านทานกำลังศึกพลทหารไทยได้ ก็แตกฉานพ่ายเข้าเมืองทุกครั้ง ๆ ฝ่ายเจ้าพระยาโกษาแม่ทัพ ครั้นเห็นการพอจะหักเอาเมืองได้แล้ว ก็แต่งหนังสือบอกโดยการอันได้รบพุ่งทั้งปวงเห็นพอจะเอาไชยชำนะได้ แลให้ม้าเร็ว ๒๓ ม้าถือลงไปกราบทูลพระกรุณายังกรุงเทพมหานคร.

จึงพระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศทราบเหตุดังนั้น ก็ทรงพระปราโมทย์ยิ่งนัก แลดำรัศให้ท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายตรวจจัดกองทัพพลสกรรจ์ลำเครื่องหกหมื่น ช้างเครื่อง ๕๐๐ ม้าเครื่อง ๕๐๐ สรรพด้วยเครื่องสาตราวุธแลเสบียงอาหารให้พร้อมเสร็จ