หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/143

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๖

กระทำพระพุทธสาสนาให้พินาศเสื่อมสูญไปดังนั้น จึงชกเอาปากเจ้าพระยาสมุหนายกแล้วก็หนีลงมา แลบัดนี้ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระพิโรธจะลงพระราชอาชญาแก่ข้าพระพุทธเจ้า ขอจงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมอัญเชิญเสด็จขึ้นไปขอพระราชทานโทษข้าพระพุทธเจ้าครั้งนี้เถิด จึงเจ้าแม่ผู้เฒ่าได้ทรงฟังดังนั้นก็เห็นโทษอันเจ้าพระยาวิไชเยนทร์นั้นทำผิด จึงเสด็จด้วยเรือพระที่นั่งขึ้นไปยังเมืองลพบุรี แลเสด็จถึงฉนวนประจำท่า ก็พาหลวงสรศักดิ์ขึ้นไปยังพระราชวัง ให้ยับยั้งอยู่นอกลับแลก่อน แล้วก็เสด็จเข้าไปเฝ้าข้างใน แลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรเห็นแล้ว ก็กระทำปัจจุคมนาการเชิญเสด็จให้สถิตย์ร่วมราชาอาศน์ แลยกพระหัดถ์อัญชลี แล้วก็ดำรัศถามว่า พระมารดาขึ้นมาด้วยธุระสิ่งใด จึงเจ้าแม่ผู้เฒ่ากราบทูลโดยเหตุทั้งปวงนั้นให้ทราบสิ้นทุกประการ สมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศทราบเหตุดังนั้นแล้ว ก็มีพระราชโองการให้หาหลวงสรศักดิ์เข้ามาเฝ้า แล้วก็ดำรัศปริภาษเปนอันมาก แลเจ้าแม่ผู้เฒ่ากราบทูลขอพระราชทานโทษ ก็ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานให้ แล้วตรัศบอกประพฤดิเหตุทั้งปวงอันหลวงสรศักดิ์ทำแก่เจ้าพระยาวิไชเยนทร์นั้นให้แก่เจ้าแม่ผู้เฒ่าทราบสิ้นทุกประการ แล้วดำรัศให้ยับยั้งอยู่ณพระราชวังสองสามวัน แลทรงปฏิบัติด้วยเคารพเปนอันดี แล้วก็อัญเชิญเสด็จกลับลงไปยังกรุงเทพมหานคร.

ในขณะนั้น ท้าวพระยาข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งหลาย จำเดิมแต่เจ้าพระยาวิไชเยนทร์ว่าราชการที่สมุหนายกนั้นก็มิได้เต็มใจ จึงปฤกษากันว่า ข้าราชการทั้งปวงที่มีสติปัญญาสัตย์ซื่อมั่นคงควรที่จะเลี้ยงเปน