บูชาพระพุทธบาทกับด้วยพระอนุชาธิราช ๆ จึงกราบทูลพระกรุณาว่า ขอพระราชทานชีวิตร เมื่อข้าพระพุทธเจ้าขึ้นช้างตามเสด็จไป แลช้างนั้นแทงช้างพระที่นั่งทรงนั้น ข้าพระพุทธเจ้าจะได้มีเจตนาแกล้งจะให้ช้างแทงนั้นหามิได้ เปนความสัจความจริง ข้าพระพุทธเจ้าจะขอกระทำสัจสาบาลถวายเฉภาะน่า[1] พระพุทธบาทถวายแต่ล้นเกล้าล้นกระหม่อมบัดนี้ สมเด็จพระเชษฐาธิราชทรงพระกรุณาโปรดดำรัศว่า ฉันหามีความแคลงแก่เจ้าฟ้า[2] ไม่ เจ้าฟ้า[3] อย่ากระทำสัจสาบาลเลย เคราะห์ฉันร้ายเอง ตรัศแล้วบูชานมัสการพระพุทธบาทบำเพ็ญพระราชกุศลให้ทานเปนอันมาก เล่นงานมหรศพสมโภช ๗ วันบูชาพระพุทธบาท[4] แล้วถวายนมัสการพระพุทธบาทกลับคืนมายังพระมหานคร.
๏ลุศักราชได้ ๑๐๘๗ ปีมเสง สัปตศก เจ้าอธิการวัดป่าโมกเข้ามาหาพระยาราชสงครามแจ้งความว่า พระพุทธไสยาศน์วัดป่าโมกนั้นน้ำกัดเซาะตลิ่งพังเข้ามาถึงพระวิหารแล้ว ยังอิกประมาณสักปีหนึ่ง พระพุทธไสยาศน์เห็นจะพังลงน้ำเสียแล้ว พระยาราชสงครามได้ฟังดังนั้น จึงเข้าไปเฝ้ากราบทูลพระกรุณาให้ทราบเหตุแห่งพระพุทธไสยาศน์นั้นทุกประการ พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงทราบดังนั้น จึงปฤกษาด้วยข้าราชการทั้งปวงมีเสนาบดีเปนอาทิว่า เราจะรื้อพระพุทธ