หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๒ (๒๔๕๕) b.pdf/280

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๔๓

ครั้นถึงณวันแรมค่ำหนึ่ง เดือนเก้า ในปีกุญ สัปดศกนั้น มีพระราชดำรัศให้ผูกกรมพระราชวัง ให้ลงพระราชอาชญาเฆี่ยนได้ยี่สิบที เกิดลมจุก กรมหมื่นสุนทรเทพขึ้นไปราบทูลว่า จุกหนัก จะขอพระราชทานให้แก้เสีย จึงมีพระราชโองการสั่งให้ริบ ถึงณวันแรมสองค่ำ ให้ลงพระราชอาชญาเฆี่ยนอิกสองยกเปนหกสิบที แล้วให้นาบพระบาทด้วย แลให้ต่อว่ากรมพระราชวังว่า อ้ายปิ่นกระลาโหมคบหาทำชู้กับมารดาเจ้ามิตร เปนแต่ทาษภรรยา ให้เฆี่ยนถึง ๗๐๐ ตายกับคา นี่มาคบหาทำชู้กับสามีภรรยาทั้งสององค์ แล้วก็มีพระราชบุตรด้วยถึงสามพระองค์สี่พระองค์ แลเจ็ดร้อยนั้นโปรดให้แบ่งออกเปนสามส่วน ยกเสียสองส่วน จะให้เฆี่ยนส่วนหนึ่งแต่สองร้อยสามสิบที จะว่าประการใด กรมพระราชวังให้การว่า จะขอรับพระราชอาชญาตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรด กรมหมื่นเทพพิพิธเอาคำให้การขึ้นกราบทูลพระกรุณา จึงดำรัศถามว่า เฆี่ยนได้เท่าไรแล้ว กรมหมื่นเทพพิพิธกราบทูลว่า ลงพระราชอาชญาได้ ๖๐ ทีแล้ว จึงดำรัศสั่งว่า ให้เฆี่ยนยกสามสิบทีไปกว่าจะครบสองร้อยสามสิบที แล้วให้เสนาบดีแลลูกขุนพิพากษาว่า โทษจะเปนประการใด ท้าวพระยามุขมนตรีแลลูกขุนพร้อมกันปฤกษาโทษต้องด้วยพระราชกำหนดกฎมณเฑียรบาล จึงกราบทูลพระกรุณาว่า โทษกรมพระราชวังบวรเปนมหันตโทษถึงประหารชีวิตรเปนหลายข้อ จะขอพระราชทานให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ตามขัติยประเพณี จึงทรงพระกรุณาตรัศขอชีวิตรไว้ แต่ให้นาบพระนลาต ถอดเสียจากเจ้าเปนไพร่ แลเจ้าฟ้านิ่ม เจ้าฟ้าสังวาล นั้นให้ลงพระราชอาชญาเฆี่ยนองค์ละยกสามสิบที ให้ถอดเปนไพร่จำไว้กว่า