๏ครั้นถึงณวันแรมค่ำหนึ่ง เดือนเจ็ด จึงเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช กราบทูลถวายราชสมบัติ แล้วก็ถวายบังคมลาจะออกทรงผนวช.
๏ถึงณวันเดือนแปด ข้างขึ้น ก็เสด็จทรงเรือพระที่นั่งศรีสามรรถไชยเปนขบวนพยุหบาตราแห่ออกไปทรงผนวชณวัดเดิม แล้วเสด็จมาอยู่ณวัดประดู่.
๏แลในเดือนแปด ข้างขึ้นนั้น ท้าวพระยามุขมนตรีทั้งหลายก็ให้ตั้งการพระราชพิธีราชาภิเศกณพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท อัญเชิญสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชขึ้นผ่านพิภพเสวยมไหสุริยสมบัติสืบไป ถวายพระนาม สมเด็จพระบรมราชามหาอดิศรบวรสุจริตทศพิธธรรมธเรศเชษฐโลกนายกอุดมบรมนารถบรมบพิตรพระพุทธเจ้ากรุงเทพมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุทธยา แลการพะราชพิธีราชาภิเศกในปีขาล สำฤทธิศกนั้น ถึงสองครั้งเนื่อง ๆ กันไป.
๏อยู่มาประมาณเจ็ดวัน กรมหมื่นเทพพิพิธคิดถึงพระองค์ว่า เปนเจ้าผู้ใหญ่ เกรงพระเจ้าแผ่นดินจะมีความรังเกียจพระไทยไม่เลี้ยง ก็จะมีชีพิตันตรายเหมือนเจ้าสามกรม จึงเข้าไปกราบทูลถวายบังคมลาออกทรงผนวช ครั้นทรงพระอนุญาตแล้ว ก็ไปทรงผนวชอยู่ณวัดกระโจม.
๏สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชโองการให้ตั้งกรมหลวงพิพิธมนตรีพระราชมารดาเปนสมเด็จพระพันปีหลวงกรมพระ