หน้า:พิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีแดง 1606 2559.pdf/6

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

คณะกรรมการหอพักได้ประชุมเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๒ มีมติร่วมกันให้ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองนักเรียนทั้งสองคนมารับทราบพฤติกรรมของนักเรียนและให้ผู้ปกครองนำนักเรียนไปเป็นนักเรีนยประเภทไปกลับ เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการอบรม ดูแล กำกับติดตามพฤติกรรมของนักเรียน อีกทั้งจะได้ไม่เป็นแบบอย่างแก่นักเรียนคนอื่นๆ ซึ่งเป็นนักเรียนประจำอีกจำนวนมาก แม้ผู้ฟ้องคดีจะอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๑ แต่ในขณะนั้นผู้ฟ้องคดียังเป็นนักเรียนโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ประเภทนักเรียนประจำหอพัก เพียงแต่การให้รับทราบถึงการกระทำความผิดระเบียบหอพัก เป็นการแจ้งด้วยวาจาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้ผู้ฟ้องคดีและผู้ปกครองทราบเท่านั้น ไม่ใช่เป็นคำสั่งอย่างเป็นทางการ ผู้ฟ้องคดีและผู้ปกครองร้อนใจไปเอง จึงอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาได้ประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ พิจารณาอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีแล้วมีมติว่า การพิจารณาเรื่องผู้ฟ้องคดีทำผิดระเบียบหอพักไม่ได้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา จึงให้โรงเรียนดำเนินการตามกฎระเบียบและอำนาจหน้าที่ของสถานศึกษาต่อไป สำหรับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เมื่อได้รับทราบมติของคณะกรรมการบริหารหอพัก ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๒ ที่ให้ผู้ปกครองผู้ฟ้องคดีนำนักเรียนไปเป็นนักเรียนประเภทไปกลับแล้ว ได้มีหนังสือ ที่ ศธ ๐๔๐๕๒.๐๐๒/๑๒๑ ลงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ แจ้งผู้ปกครองผู้ฟ้องคดีอย่างเป็นทางการว่า ผู้ฟ้องคดีกระทำผิดระเบียบโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ว่าด้วยการอยู่ประจำของนักเรียน และคุณสมบัติการเป็นนักเรียนของโรงเรียน จึงให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากสถานภาพการเป็นนักเรียนหอพัก (นักเรียนประจำ) ของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ผู้ฟ้องคดีและผู้ปกครองผู้ฟ้องคดีรับทราบและได้ศึกษาที่โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ในฐานะนักเรียนประเภทไปกลับต่อไปจนถึงวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๒ หลังจากนั้น ผู้ปกครองของผู้ฟ้องคดีโดยนางอารีย์ ชิดชูได้ยื่นคำร้องขอระเบียนผลการเรียนและขอย้ายสถานศึกษาของผู้ฟ้องคดีด้วยความสมัครใจ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนทุกฝ่ายรวมทั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้พิจารณาอนุญาต สถานภาพการเป็นนักเรียนของโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ของผู้ฟ้องคดีจึงสิ้นสุดลง ผู้ฟ้องคดีมีพฤติกรรมที่กระทำผิดระเบียบโรงเรียนและระเบียบหอพักหลายครั้ง การกระทำผิดของผู้ฟ้องคดีเป็นความผิดร้ายแรง ผิดระเบียบของโรงเียนและผิดระเบียบของหอพัก หมวด ๒ 

/ส่วนที่ ๒...