หน้า:ภูตผีปีศาจของไทย (เหม เวชกร).pdf/478

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๑๖│๒๑๗

หายใจเฮือก ความจริงมันควรจะเป็นเช่นนั้น ชั้นแรกเราคิดว่า ตาหิงจะมานุงนัวอยู่ที่บ้านเราอีก เราก็แย่เลย เท่าที่ทิดกล้าเคยสำแดงเสียงอยู่ห่าง ๆ บ้าน ก็จะกลายเข้ามาถึงในบ้านอย่างเมื่อคืนนี้ ถ้าตาหิงยังคงนอนค้างที่นี่

วันนั้นทั้งวัน ตาผมกับตาผิงคุยกันบ้าง นอนพักบ้าง เพื่อออมกำลังไว้ตอนค่ำ พอตกบ่ายก็รีบกินข้าวกินปลากันเรียบร้อย แล้วตาหิงก็เตรียมย่ามสะพายบ่า พลางล่ำลาตายายและพวกเราทุกคน แล้วลงจากบ้านบ่ายหน้าเข้าวัดเลย เราทั้งหมดถอนใจยาวส่งท้ายตาหิง ภาวนาขอให้ตาหิงผู้วิเศษเอาวิญญาณทิดกล้าไปให้จงได้ ละแวกเราจะได้มีสุขเสียที

"กูสงสัยว่ะ!" ตาพูดขึ้นลอย ๆ "อ้ายทิดหิงจะต้องรับจ้างใครมาทำการดังนี้ให้สะกดผีตายโหงอ้ายกล้าจนสงบลง ที่อ้ายทิดหิงพูดว่า มันจะเอาผีร้ายไปไว้เองน่ะ มันจะเอาไปสุมกบาลอะไรกัน ดูมันยังไง ๆ อยู่ และทำไมมันรู้เร็วนักว่า เขาเซ่นผีปลุกผีกันที่นี่ บ้านมันอยู่ถึงทุ่งสา่มเรือน ใกล้กันเมื่อไหร่ ดูทีท่ามันจะซับซ้อนยังไงอยู่" ตาพูดไปเกาหัวไป

"เมื่อวานนี้ได้ยินแกพูดว่า แกอยากได้ผีตายโหงไปทำอะไรของแก" พี่พุกพูดเป็นเชิงออกความเห็นบ้าง

"อ้ายพูดน่ะ มันก็พูดยังงั้น ข้าสงสัยว่ะ ที่ว่ามันจะเรียกเอาไปน่ะ คงจะไม่เอาไป อ้ายทิดหิงคงมาทำพิธีเพียงสะกดอ้ายกล้าให้สงบเท่านั้น อีกฝ่ายมันอาจเกิดกลัวเกรงว่า ถ้าอ้ายกล้าขึ้นอาละวาด ก็จะรู้กันว่า ใครทำร้ายมันถึงตาย จึงคิดให้อ้ายทิดหิงมาสะกดเสีย เพื่อเรื่องจะได้เงียบ อ้ายทิดหิงจะเอาผีตายโหงไปสุมกบาลมันทำไมในสมัยนี้" ตาว่าแล้วมวนบุหรี่สูบ พวกเราฟังเหตุผลของตาก็ดูจะเข้าท่า อาจจะเป็นจริงตามนั้นก็ได้ จริงทีเดียว ใครทำอะไรร้าย ๆ ไว้ ก็ย่อมต้องการให้เรื่องเงียบ ถ้ามีการเซ่นผีกัน เรื่องมันอาจแดงขึ้น อ้ายเรื่องกลัวทางฆ่ากันน่ะ ฝ่ายเจ้าที่แอบทำร้ายหากลัวทางทิดกล้าไม่ แต่กลัวอาญาบ้านเมืองมากกว่า ถ้าเงียบเหมือนความมืด เรื่องมันก็จางหายไป

แต่จะอย่างไรก็ตาม ทางบ้านเรา พอตกเวลาโพล้เพล้ ก็ขึ้นบ้านหมด และปิดประตูหน้าต่างเงียบไปทั้งบ้าน คืนนี้คุยกันบ้างนิดหน่อย ความเงียบมันช่างปกคลุมหมู่บ้านเราจริง ๆ จิ้งหรีดเท่านั้นที่ยังมีเสียง