เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๘๑ ก
๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
โดยที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๙ มีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งให้ผู้ต้องโทษปรับทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับที่ผู้นั้นไม่มีเงินชำระค่าปรับ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๐/๑ วรรคหก แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกาออกระเบียบไว้ ดังนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการกำหนดจำนวนชั่วโมงที่ถือเป็นการทำงานหนึ่งวัน และแนวปฏิบัติในการให้ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับและการเปลี่ยนสถานที่กักขัง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐"
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ ๕ แห่งระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการกำหนดจำนวนชั่วโมงที่ถือเป็นการทำงานหนึ่งวัน และแนวปฏิบัติในการให้ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับและการเปลี่ยนสถานที่กักขัง พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๕ ในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาปรับ หากผู้ต้องโทษปรับมิได้ร้องขอทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับในขณะพิพากษาคดี ศาลพึงสอบถามว่า ผู้ต้องโทษปรับมีเงินชำระค่าปรับหรือไม่ และแจ้งให้ทราบถึงสิทธิที่จะขอทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ"
- ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
- วีระพล ตั้งสุวรรณ
- ประธานศาลฎีกา