หน้า:รายงานการประชุม สผ (๒๔๗๕-๑๑-๒๕) b.pdf/47

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๔๐

นี้มีสมาชิกหลายท่านได้เสนอญัตติขอแปรมา คือ นายดิเรก ชัยนาม ได้เสนอขอให้เติมความในมาตรา ๒๑ ลงอีกข้อหนึ่งเป็นข้อ ๖ ความว่า "เมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร" ญัตตินี้ คณะอนุกรรมการได้ประชุมพิจารณากันแล้วเห็นว่า เพื่อให้ความชัดยิ่งขึ้นกว่าที่ร่างไว้เดิม จึ่งควรเติมความว่า "หรือยุบสภา" ลงต่อท้ายความในมาตรา ๒๑ ข้อ ๑ ดั่งที่ได้แก้กันแล้ว ประธานอนุกรรมการถามนายดิเรกว่า จะพอใจหรือไม่ตามที่แก้นั้น

นายดิเรก ชัยนาม ตอบว่า พอใจและรับรองตามที่ประธานอนุกรรมการฯ แถลง และขอถอนญัตติที่เสนอไว้

ประธานอนุกรรมการฯ แถลงต่อไปว่า ยังมีสมาชิกอีกผู้หนึ่งได้เสนอญัตติขอแปรมาตรา ๒๑ นี้ คือ พระยาอนุมานราชธน ซึ่งเสนอว่า ตามมาตรา ๒๑ (๕) นั้น เห็นว่า ถ้าสภามีสมาชิกมาประชุม ๑ ใน ๓ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ก็ย่อมเป็นองค์ประชุม และเมื่อถือเอาเสียงลงคะแนนมีจำนวนไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนองค์ประชุม ก็ย่อมวินิจฉัยได้ ซึ่งเท่ากับว่า มีจำนวนราว ๑ ใน ๖ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่านั้น ก็ย่อมวินิจฉัยได้ และขอแปรมาตรา ๒๑ (๕) ว่า "สภาผู้แทนราษฎณวินิจฉัยให้ออกจากตำแหน่ง โดยเห็นว่า มีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อสภา แต่การลงมติวินิจฉัยข้อนี้ ให้ถือเอาเสียงลงคะแนนมีจำนวนไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด" ญัตตินี้ คณะ