หน้า:รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายฯ (2563-09-01).pdf/6

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

อนึ่ง เมื่อมีการออกหมายจับผู้ต้องหา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศได้แจ้งให้ตำรวจสากลทราบถึงหมายจับผู้ต้องหาเพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี แต่ปรากฏว่าหลังจากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนั้น บุคคลดังกล่าวได้ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับการ ประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ น่าเชื่อว่าเป็นการโยกย้ายที่มีความไม่ปกติอันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง

ในคดีนี้ คณะกรรมการพบว่า ทนายความของผู้ต้องหามีส่วนสำคัญในการทำให้เกิดผลของการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยได้ไปพบกับ รองศาสตราจารย์ ส. พร้อมกับนาย ช. เพื่อขอให้มีการคำนวณความเร็วรถของผู้ต้องหาใหม่ และยังได้อยู่ร่วมในการจัดให้มีการสอบปากคำพันตำรวจโท ธ. เพื่อเปลี่ยนคำให้การเรื่องความเร็วรถด้วย หลังจากนั้น ทนายความของผู้ต้องหาได้รับมอบอำนาจเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการและคณะกรรมาธิการเรื่อยมา จนกระทั่งนาย น. มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหาในการร้องขอความเป็นธรรมครั้งสุดท้าย

สำหรับนาย จ. ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่ได้ให้การว่า ผู้ต้องหาขับรถด้วยความเร็วโดยประมาณ ๕๐ ถึง ๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น คณะกรรมการพบว่า ได้รับการอุปการะจากนาย ช.นอกจากนี้หลังจากที่นาย จ. ถึงแก่ความตายอย่างกระทันหันภายหลังที่ได้มีชื่อปรากฏในข่าว พบว่าโทรศัพท์มือถือของนาย จ. ถูกทำลาย

จากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทั้งปวง คณะกรรมการเห็นว่า การตั้งข้อหา การสอบสวน การร้องขอความเป็นธรรม การกลับคำสั่งฟ้องเป็นสั่งไม่ฟ้อง การไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ เป็นขบวนการดำเนินคดีที่เชื่อได้ว่ามีการร่วมมือสมคบคิดกันอย่างเป็นระบบของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยาน และบุคคลทั่วไป รวมทั้งมีการสมยอมกันโดยไม่สุจริตเพื่อหวังผลเพียงให้ผู้ต้องหาหลุดพ้นจากความรับผิดในทางอาญาทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและในชั้นพนักงานอัยการ กระบวนการทั้งสิ้นนี้จึงมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ ๖๔๖–๖๔๗/๒๕๑๐ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ ๖๔๔๖/๒๕๔๗ และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๙๓๓๔/๒๕๓๘ ที่ได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานแล้ว คณะกรรมการจึงมีข้อเสนอ ดังต่อไปนี้

๑. ต้องเริ่มกระบวนการสอบสวนใหม่ให้ถูกต้องในข้อหาที่ยังไม่ขาดอายุความ โดยเฉพาะข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ข้อหาขับขี่รถในขณะเมาสุราและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

๒. จะต้องมีการดำเนินการทางวินัยและทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลอื่นที่ร่วมในขบวนการนี้ กล่าวคือ

 ๒.๑ พนักงานสอบสวนซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนวน

 ๒.๒ พนักงานอัยการซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 ๒.๓ ผู้บังคับบัญชาซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่

 ๒.๔ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่

 ๒.๕ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่

 ๒.๖ ทนายความซึ่งกระทำผิดกฎหมาย

 ๒.๗ พยานซึ่งให้การเป็นเท็จ

 ๒.๘ ตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุนในการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว