หน้า:สนทนากับผู้ร้ายปล้น - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๖๘.pdf/50

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๙

ไม่ฟ้องร้องเอาความ ก็พาเจ้าของไปด้วย ไปหาผู้รับซื้อ ข้างผู้รับซื้อยังทำกระบวรออดแอดต่อไปอีกว่า จะต้องไปพูดจาอ้อนวอนเขาก่อน ขอผัดเพี้ยนไปชั่ววันหรือครึ่งวัน เปนแต่รับเงินไว้ในเวลานั้นแล้วก็กระซิบสั่งให้ลูกสมุนเอากระบือไปผูกไว้ในป่าแห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วตัวทำไถลหายไปพอเปนทีเสียหน่อยหนึ่ง แล้วจึงกลับมาบอกว่า ให้ไปตามเอากระบือมาทางนั้น ๆ เถิด ผู้ไถ่เดิรไปก็พบกระบือผูกอยู่กลางป่า จึงแก้จูงกลับมา เมื่อจวนจะถึงบ้านเจ้าของ ต้องปล่อยกระบือนั้นเสียอีกครั้งหนึ่ง บางทีนักเลงจับจูงกระบือนั้นไปส่งต่อกำนันว่า จับกระบือพลัดได้ ไม่ทราบว่ากระบือของใคร ให้กำนันนำส่งอำเภอโฆษนาการ ฝ่ายเจ้าของก็พาตั๋วพิมพ์รูปพรรณไปพิศูจน์ต่ออำเภอขอรับกระบือนั้นมา แต่บางทีเมื่อเอากระบือมาปล่อยไว้หลังบ้านแล้ว เจ้าของทำเปนไปพบ เข้าไปบอกต่อกำนันเปนคำนับว่าเห็นกระบือของตนที่หายมาปล่อยอยู่ไปจับมาได้ก็มี วิธีไถ่กระบือทำกันดังนี้

๑๐๙ ถามว่า วิธีไถ่กระบือดูทำกันวกวนเปนกลอุบายมาก ยังไม่เข้าใจชัดว่าทำไมจึงต้องทำอย่างนั้น เปนต้นว่าเมื่อเจ้าของได้กระบือคืนมาแล้ว ทำไมจึงต้องมาปล่อยและร้องให้โฆษนา

ตอบว่า เพราะเมื่อกระบือหายไป เจ้าของได้ทำกฎหมายตราสินไว้เปนสำคัญ ถ้าไม่ทำอุบายเช่นนั้น ก็กลัวเห็นพิรุธที่รู้เห็นเปนใจในการไถ่ถอนโคกระบือกับผู้ร้าย