หน้า:สนทนากับผู้ร้ายปล้น - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๖๘ (๑).djvu/37

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๗

ไหน ถ้าพอจะต้อนเข้าทางใด ก็ต้อนเข้าทางกระบือฝูงไปไกล ๆ แล้วจึงแยกไปเสียทางอื่น เพราะทางกระบือฝูงนั้น กระบือฝูงมักจะเดิรอยู่เสมอ ถ้ากระบือฝูงเดิรเหยียบรอยกระบือที่ต้อนไปพักเดียว รอยก็ปนกันเลือนไป ไม่เปนที่สังเกตของพวกเจ้าของได้

๘๐ถามว่า ปล้นไล่ฝูงโคกระบือ ทำไมจึงปล้นเวลาบ่าย

ตอบว่า ถ้าปล้นเวลาเช้า กระบือไปถูกแดดจัดก็หอบเพลีย ต้อนไปไม่ได้ไกล จึงต้องปล้นเวลาบ่าย ไล่ต้อนไปในเวลาแดดอ่อน ต้อนไปได้จนตลอดคืน กระบือไม่หอบ

๗๑ถามว่า ขวากที่ใช้นั้นอย่างไร

ตอบว่า ขวากที่ใช้นั้นเปน ๓ อย่าง คือ ขวากกระจับอย่าง ๑ ขวากคนอย่าง ๑ ขวากม้าอย่าง ๑ ทำด้วยไม้รวกทั้ง ๓ อย่าง

ขวากกระจับนั้นผูกเปน ๔ คม ทิ้งลงคงมีคมขึ้นตั้งอยู่ ไม่ต้องปัก ใช้ได้ในการปัจจุบันทันด่วน แต่ทำยากและเอาไปยาก ผู้ร้ายไม่ใคร่ใช้

ขวากคนนั้นมี ๓ ขนาด ขนาดเล็ก สำหรับปักให้ตำเท้าอย่าง ๑ ขนาดกลางสำหรับปักให้ตำหน้าแข้งอย่าง ๑ ขนาดยาวสำหรับปักให้ตำโคนขาอย่าง ๑ แต่ขนาดเล็กเปนดีกว่าทุกอย่าง เรียกว่าขวากขุนด่าน เหลาด้วยไม้รวกแบน ๆ เสี้ยมปลายให้แหลม หยักปลายเปนเงี่ยง ลนไฟเสียพอเปราะ ปักไว้พอเสมอยอดหญ้า พอเหยียบเข้าก็เท้าทลุและหักคาเท้าทีเดียว ผู้ร้ายใช้อย่างนี้มาก อย่างกลางอย่างใหญ่ไม่ใคร่ใช้