หน้า:สามก๊ก - ๒๔๔๙.pdf/1430

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
เล่ม ๔
135
สามก๊ก

กลับพลทหารคืนมาเข้าเมืองเสเสีย จึงให้สืบถามชาวบ้านชาวเมืองทั้งปวงว่า ขงเบ้งมาตั้งอยู่ในเมืองเสเสียนี้มีทหารอยู่สักเท่าใด หญิงชายทั้งนั้นจึงบอกว่า เมื่อขงเบ้งยกทหารมาตั้งอยู่นั้นมีทหารสองพันห้าร้อย แต่ล้วนพลเรือนทหารที่มีฝีมือนั้นก็หามีไม่

อนึ่งกวนหินเตียวเปา ซึ่งไปตั้งอยู่ตำบลเขาบุกองสันนั้นเล่า ก็มีทหารนายละสามพันทำกลวิ่งสับสน เปลี่ยนกันไปหัวเขาท้ายเขา จะได้มีทหารอื่นซุ่มซ่อนอยู่นอกนั้นอิกหามิได้ สุม้าอี้แจ้งดังนั้นก็เอามือตบอกเข้าว่า เรามิรู้เท่าความคิดขงเบ้งเลย ครั้นสุม้าอี้พักทหารอยู่เมืองเสเสีย จัดแจงบ้านเมืองเปนปรกติแล้วก็จะยกทหารกลับไปเมืองเตียงอั๋น จึงทูลพระเจ้าโจยอยตามซึ่งได้ทำการรบพุ่งนั้นทุกประการ

พระเจ้าโจยอยได้แจ้งดังนั้นก็มีความยินดี จึงตรัสว่าซึ่งท่านยกทหารไปกำจัดสัตรูกลับคืนเอาหัวเมืองได้ครั้งนี้ ก็เปนความชอบของท่านใหญ่หลวงนัก สุม้าอี้จึงกราบทูลว่าซึ่งข้าพเจ้ายกไปกำจัดข้าศึกครั้งนี้ ก็ยังมิราบคาบทีเดียว ด้วยทหารขงเบ้งนั้นแตกหนีกลับเข้าไปพักอยู่ในเมืองฮันต๋งนั้นได้มาก เห็นขงเบ้งจะซ่องสุมผู้คนกลับมาทำการอิก ข้าพเจ้าจะยกกองทัพใหญ่ไปตีเมืองฮันต๋งเสีย ถ้าได้เมืองฮันต๋งแล้ว เห็นว่าในขอบขัณธเสมานี้จะมีความศุขสืบไป

พระเจ้าโจยอยก็เห็นด้วยมีพระไทยยินดี จึงให้เกณฑ์ทหารทั้งปวงทุกหัวเมืองให้แก่สุม้าอี้นั้นสิ้นเชิง ขณะนั้นซุนจู้เปนขุนนางผู้ใหญ่ จึงเข้ามาทูลห้ามพระเจ้าโจยอยว่า ครั้งพระไอยกาของพระองค์เมื่อยังเปนมหาอุปราชอยู่ ยกพลทหารไปตีเอาเมืองฮันต๋งนั้น ได้ออกพระโอษฐ์ตรัสไว้ว่า เมืองฮันต๋งขับขันนัก ประดุจหนึ่งตั้งอยู่ในปากเหวหากบุญของเราจึงได้สำเร็จ แม้วาศนาหา