หน้า:เปิดกรุผีไทย (เหม เวชกร).pdf/259

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๙๙
 

ทันที ใจผมแทบขาดด้วยความตกใจ เจ้าสาวเป็นผู้ไม่มีเลือดในกายตัวเสย เนื้อเขียวจวนดำ น้าเอมแผดเสียงร้องจนหลง จับตัวลูกสาวพลิกหน้า เจ้าสาวตาหลับแต่ปากแสยะแก้มตอบ และสิ่งที่เกิดการโวยวายเป็นการใหญ่ น้าสายร้องจนเสียงไม่เป็นผู้เป็นคน กลิ่นเหม็นที่เจ้าสาวคลุ้งไปหมด มันไม่ ได้เป็นเจ้าสาวที่สวยสด มันเป็นเจ้าสาวที่ตายมาหลายวันแล้ว คนฮือขึ้น อย่างหนักเจ้าบ่าวร้องไห้โฮ พูดไม่เป็นภาษา น้าสายเป็นลมล้มฟุบลง แล้ว เพื่อนสาวก็ล้มลงอีก ข่างโกลาหลยิ่งนัก ความกลัวและทั้งเหม็นเน่า นั่นคือศพ ทุกคนมิได้มารดน้ำสังข์ แต่เป็น รดน้ำศพ ผีสางตนใดทำอย่างนั้น เมื่อเข้ายังตักบาตร เมื่อกีนี้ก็เดินเกาะ เพื่อนสาวมานั่งเตียง เดี่ยวนี้เป็นศพที่เน่าเหม็น ญาติแต่ละฝ่ายหัวใจแทบ บางคนโดดหนีออกมาเพราะ แตกสลาย เสียงรำไห้และบ่นเพ้อรำพันได้ดังกระหึม แหวกคนโดดออกนอกชาน นายชุ่มหน้าซีดขาว นายมั่นก็เช่นกัน แต่ผมนั้น มีความรู้สึกว่าตายไปแล้วครึ่งตัว เสียงโกลาหลดังกรุงแตก น้าเอม กอดศพลูกสาวร้องไห้อย่างคนบ้า ทุกคนในที่นั้นต้องกลัวและต่างคิดไป คนละทางตัวสั่นดังลูกนก นั่นคือผีที่สิ่งอยู่ในร่างกายเจ้าสาว เจ้าสาวตาย มาแล้วอย่างน้อยก็สามสี่วัน พอมาถูกน้ำพระพุทธมนต์เข้าผีที่สิงก็โดด หนีร่างนั้นก็เป็นศพ ความกลัวได้เกิดขึ้นทั้งบ้าน ผมร้องออกไปเลียงไม่ ผมขนลุกทั้งตัว เป็นมนุษย์เลย ใจรู้สึกว่าพูดขอร้องคณะของเราให้หนีไปบ้าน แต่นายมั่น นายชุ่มจะตั้งใจอยู่แล้วก็จูงผมลงจากเรือนไป และดูว่ายังมีอีกหลายคน โดดตามลงมาด้วย เราวิ่งกลับเข้าบ้านนายขุ่มอย่างหมดเรี่ยวแรงคล้ายใครฉุดขาไว้ ข้าง หลังเรามีคนวิ่งตามติด ๆ มาพร้อมกับร้องไห้ด้วย ที่แท้ก็เป็นแม่นิ่มภรรยา นายชุ่ม พอขึ้นบ้านนายชุ่มยกขวดเหล้าเข้ากรอกลงคอ นายมั่นก็ทำบ้าง ผมก็ต้องตามบ้าง แม่นิ่มขอดื่มบ้าง นั่งยองๆ ตัวสั่นเบียดนายชุ่ม ลูกนาย ขุ่มสองคนไม่รู้เรื่องอะไร มองเราและมองไปตามเสียงเอะอะของบ้านโน้น เมื่อไม่ได้เรื่องอะไรเด็กสองคนก็เข้าครัวกินข้าว นายชุ่มบ่นว่าจะไม่ไป