หน้า:เปิดกรุผีไทย (เหม เวชกร).pdf/97

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๗
 

คิดอะไรต่ออะไรไปไกล คิดว่า ถ้าแม่ค่อยยังชั่วแล้วหายเป็นปกติ เราก็จะได้แต่งงานกันกับบานเย็นสมใจ แต่เอ๊ะ! ถ้าแม่ไม่หายและตายลงไปล่ะ เออ ทีนี้ เราจะแต่งกันได้อย่างไร เราจะต้องรอคอยกว่าจะหายเศร้าโศก เผาศพก่อน ปุบปับจะแต่งกันก็น่าเกลียด ผมคิดแล้วก็ถอนใจ จะทำอย่างไรได้ เรื่องมันเป็นไปดังนี้เสียแล้ว ก็ต้องตามเรื่องมัน

ผมอาจจะหลับไปนานกระมัง สะดุ้งตื่นขึ้นมาเอง เสียงต่าง ๆ ในบ้านเงียบฉี่ ในคลองเสียงปลาผุดบ้างไม่ขาด ผมชูคอดูไปทางคนไข้ ก็เห็นนอนอยู่เป็นปกติดี ขอบคุณท่านอาจารย์พระสะกดไว้ดีจริง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทุกคนในบ้านคงหลับแล้วทั้งหมด ไม่มีเสียงอืออาบ้างเลย อาจจะเป็นเวลาสักยามสามได้กระมัง ผมชักตาแข็ง หลับอีกไม่ลง นึกย้อนไปทางบ้านของตัวเอง แต่ก็ไม่ค่อยห่วงเท่าใด แม้บิดาผมจะเสียไปนาน แล้วก็ยังมีน้องสาวอีกสองคนเป็นเพื่อนแม่ได้ดี ทั้งลูกจ้างทำนาก็มีนอนอยู่ในโรงหน้ายุ้งข้าว ไม่มีอะไรน่าห่วง

ความเงียบสงัดทำให้เกิดความวังเวงขึ้นบ้างเหมือนกัน แม้แต่จะมีคนนอนอยู่หลายคน ก็หลับทั้งนั้น ก็เหมือนตัวเองอยู่คนเดียว เจ้าหมากลุ่มหนึ่งทางบ้านเหนือหอนเสียงยาวเย็นเยือกลอยมาตามลม รู้สึกว่า เสียงนั้นจะเป็นที่วัดนั่นเอง แล้วใจตัวก็กระหวัดหวนคิดว่า มันหอนทำไม ถ้าเดือนหงาย หมาหอน ไม่แปลกเลย เพราะมันมองเห็นอะไรไกลออกไป โดยมีแต่ความเงียบ ผู้คนไม่มี มันก็เกิดเหงาใจจึงหอนขึ้นตามอารมณ์ของมัน แต่นี่เดือนมืด มันเห็นอะไรเล่าจึงได้หอนขึ้น หัวใจผมมันเจ้ากรรมดันไปคิดอะไรในยามสงัดเช่นนี้ จึงเกิดว้าเหว่วังเวขึ้น เสียงแมวร้องหง่าว ๆ อยู่หลังบ้านไกล ๆ คล้ายเด็กละเมอเรียกแม่ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า เสียงแมวตัวผู้ร้องเรียกหาตัวเมีย แต่เสียงมันหลง ๆ น่าสงสารและน่ากลัว ยิ่งในยามดึกที่กำลังกระชั้นชิดอยู่กับคนไข้ที่มีผีสิงเช่นนี้ ทุกอย่างมันก็น่ากลัว นกแสกบินร้องข้ามหลังคาไปอย่างเสียงยาวเยือกบาดใจ ผมใจหายวูบ เพราะอยู่ ๆ มันก็บินร้องข้ามบ้านไป ผมเกิดใจเต้น คนเก่า ๆ ว่า บ้านใครมีคนไข้อยู่