ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/139

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
146
 

และตัวผมก็มิได้อยู่ที่นั่นอย่างที่เห็นและพูดคุยกับเงินยวงแต่แรก กลับกลายเป็นผมนอนอยู่บนเตียงในห้องชั้นบนนั่นเอง จึงรู้ว่า ผมฝันไปอีก แต่คราวนี้ ฝันแปลกได้เรื่องได้ราวดี

แต่ผมจะเอาความฝันนี่น่ะหรือไปแจ้งกับตำรวจญาติกันเพื่อให้เขาทำการ เขามีหัวเราะเอาหรือ ใครจะยึดเอาความฝันมาเป็นหลัก เพราะความฝันย่อมมาได้หลายทาง มาจากจิตพะวงอยู่ก็ย่อมฝันประกอบเรื่องได้ยืดยาว แต่เอาละนะ ตำรวจนี้เป็นญาติกัน จะขอร้องให้เขาทำดูทีก่อน แม้แต่จะเหลวไหลไป มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร

ในตอนสายนั้นเอง ผมก็ได้พบกับญาติตำรวจและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดตลอดจนชื่อร้านและตำบล ทั้งลักษณะสถานที่ อีกทั้งรูปร่างของหญิงนั้น ตำรวจผู้เป็นญาติหัวเราะแล้วว่า จะลองดู แต่หวังว่า อ้ายการไปนั่งกินอะไรน่ะ มันก็เกี่ยวกับเงินเรานะ จะเกี่ยวกับเงินของทางการไม่ได้ เพราะเราไปทำการตามเรื่องความฝัน มันก็ต้องเป็นเงินส่วนตัว ผมหัวเราะแล้วมอบเงินให้เขาจำนวนหนึ่ง เมื่อตกลงกันแล้ว ผมก็แยกทางกับเขากลับบ้าน

เมื่อได้นำบัญชีและตัวเงินการขายยาไปมอบผู้จัดการห้างเรียบร้อยแล้ว ผมก็เบิกยาไปอีกตามเคย และคราวนี้ บ่ายหน้าไปสายกาญจนบุรี ไม่รอฟังข่าวทางตำรวจญาติกันละ เรื่องจะสำเร็จไม่สำเร็จก็ขอเลิกล้างมือกันเสียที ผมได้ตระเวนไปขายยาและโฆษณาหลายจุดของเส้นทางสายนี้ จนเช้าวันหนึ่ง ได้อ่านหนังสือพิมพ์พบข่าวของผมเองบังเกิดขึ้นจริง ๆ ผมอ่านข่าวนั้นด้วยความตะลึงงัน มันเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า การจับกุมของจ่านายสิบตำรวจชื่อนั้น ๆ และลูกน้องได้พบเค้าเงื่อนของเหล่าร้ายหรือแก๊งล่อลวงมนุษย์ จับเหล่าร้ายได้ในขณะที่หญิงสาวผู้หนึ่งเล็ดลอดหนีแก๊งวายร้าย นั้น และพวกวายร้ายได้ตามออกมาจับตัวและขัดขวาง หญิงนั้นได้ร้องขอความช่วยเหลือ ฝ่ายตำรวจที่คอยโอกาสนั้นอยู่ก็ตรูเข้าจับได้ ทั้งเข้าค้นตัวการอีกหลายคน ประกอบกับหญิงเจ้าทุกข์ได้ให้การเป็นพยานอย่าง