ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/95

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
102
 

"งั้นพี่จะไปถามท่านเอง"

"แต่เอ๊ะ พี่ ถ้าพี่ไปวัด ฉันจะต้องเรียกเพื่อนเขามาเป็นเพื่อนละ ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว"

"งั้นบานเย็นไปหาพระก็แล้วกัน ไปเล่าให้ท่านฟัง พี่จะอยู่กับแม่เอง"

"เออ จริงซิ ฉันไปได้ แต่เอ พี่ทิด เราจะถามลุงอ่ำบ้านใกล้เราดูก่อนดีไหม?"

"เออ จริงแฮะ ลุงอ่ำคงรู้ว่า ใครรักษาได้บ้าง"

"ไปบนเรือนกันก่อนเถอะ ฉันมาจ๋องอยู่ท่าน้ำนานแล้ว" บานเย็นเตือนผม และผลักผมให้เดินข้างหน้า

เมื่อเราขึ้นมาบนเรือนแล้ว คนเจ็บก็หันมาดู พอแกเห็นหน้าผม แกยิ้มแห้ง ๆ ตามเคย แล้วนอนตาปริบ ๆ บานเย็นเลี่ยงเข้าไปในห้องนอนของตัว ส่วนผมนั่งอยู่กับแกห่าง ๆ และทำใจให้กล้า อดจหวาดไม่ได้เมื่อทราบเรื่องเสียก่อนดังนี้ ไม่ค่อยจะสบตากันนัก ชักเกรงดวงตาลึกโหลของแก

"ช่วยพยุงแม่ไปเยี่ยวทีลูก" แกขอร้องเสียงแห้ง ๆ บานเย็นได้ยิน แอบมองตาผมมาจากในห้อง สบตากัน อันเป็นที่รู้กันว่า ถ้าเผลอคน แกลุกขึ้นวิ่งได้และกินหมูดิบ ๆ ผมขยิบตาให้บานเย็นออกมาช่วยกันพยุงแก ในขณะพยุงตัวแก เกือบไม่น่าเชื่อว่า แกจะลุกขึ้นวิ่งได้อย่างที่บานเย็นพูด เมื่อเรียบร้อยแล้ว ผมก็เลี่ยงเข้าห้องบานเย็น คนเจ็บมองตามนิดหน่อย แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแกรู้อยู่แก่ใจว่า ผมก็คือเขยของแกในวันหน้า ที่คอยอยู่ก็เพราะแกเจ็บอยู่ มิฉะนั้น มารดาผมก็จัดแจงแต่งกันเสียแล้ว

"แหม! ตัวแกเย็นเฉียบ" ผมว่าเมื่อมาอยู่ในห้องของบานเย็นแล้ว บานเย็นพยักหน้า

"แกไม่ได้อาบน้ำเลย กลิ่นตัวชักสาง ๆ" บานเย็นว่า "พี่อยู่คนเดียวนะ ฉันจะไปบ้านลุงอ่ำ"

"ไปเถอะ พี่ไม่กลัวหรอก" ผมตอบอย่างส่งเดช ซึ่งปากไม่ตรงกับใจ

"น้องไปเล่าอาการของแม่ให้ลุกอ่ำแกฟังให้ละเอียดนะ บางทีแกจะ