หน้า:แจ้งความ มท (๑๑๙-๑๑-๐๑).pdf/1

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๑๗ หน้า ๔๓๘
วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๑๑๙
ราชกิจจานุเบกษา

ที่สวนรายนี้เปนของนายสาโดยบริสุทธิ จะได้จัดการโอนชื่อในโฉนดให้แก่นายสารับไป

ประกาศมาณวันที่ ๗ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๑๙


ด้วยนายมียื่นเรื่องราวต่อกระทรวงเกษตราธิการ ขอใบจองนาตำบลบางระมาดฝั่งตวันตก ท้องที่ขุนบุรีรักษา กรมการอำเภอแขวงกรุงเทพฯ โดยกล่าวว่า เปนที่รกร้างว่างเปล่า หามีผู้ใดหวงห้ามไม่ นายมีทำนารายนี้แลได้เสียงหางเข้าค่านามาจนทุกวันนี้เปนเนื้อนา ๑๙ ไร่ ความแจ้งอยู่ในเรื่องราว ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๑๘ นั้น แล้ว

ถ้าผู้ใดมีคดีเกี่ยวข้องร้องคัดค้านด้วยที่ดินรายนี้ประการใด ก็ให้ทำคำร้องไปยื่นต่อเจ้าพนักงานกระทรวงเกษตราธิการภายในกำหนด ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้ออกประกาศนี้เปนต้นไป ถ้าพ้นกำหนดนี้ไม่มีผู้มาร้องคัดค้านประการใดแล้ว เจ้าพนักงานจะสันนิษฐานว่า ที่ดินรายนี้ไม่มีผู้อื่นเปนผู้หวงห้าม เปนที่อันบริสุทธิ์แล้ว จะได้จัดการต่อไป


ด้วยนายจินดารักษ์ยื่นเรื่องราวต่อกระทรวงเกษตราธิการ ขอรับโฉนดสำหรับที่สวนตำบลบางรัก แขวงกรุงเทพฯ ระวางขุนอินทร์อากร สารบาน ๑๓๙ สารบบ ๒๓๗๗๐ โฉนดชื่อ นายเดช บิดา นายเพิ่ม บุตร์ เปนสวน คงเรียกรวม ๑ ขนัด โดยกล่าวว่า ได้เอาน่าโฉนดสวนรายนี้มอบให้แก่อำแดงละม่อม มารดาเลี้ยง รักษาไว้ แล้วอำแดงละม่อมหาคืนน่าโฉนดให้ไม่ นายจินดารักษได้ฟ้องอำแดงละม่อมต่อศาล ความยังหาเสร็จกันไม่ อำแดงละม่อมก็ตายเสียในระหว่างความ น่าโฉนดสวนรายนี้จึงสูญหายไป นายจินดารักษ์ก็ได้ปกครองสวนรายนี้แลเสียค่าอากรมาจนทุกวันนี้ ความแจ้งในเรื่องราวหมาย ๓๕๒ ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๙ นั้นแล้ว

ถ้าผู้ใดมีคดีเกี่ยวข้องด้วยที่สวนรายนี้ ก็ให้ทำคำร้องไปยื่นต่อเจ้าพนักงานกระทรวงเกษตราธิการภายในกำหนด ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้ออกประกาศนี้เปนต้นไป ถ้าพ้นกำหนดนี้ เจ้าพนักงานจะสันนิษฐานว่า ที่สวนรายนี้เปนของนายจินดารักษ์โดยบริสุทธิ์ จะได้จัดการออกสิ่งสำคัญให้แก่นายจินดารักษ์รับไป

กระทรวงเกษตราธิการ

ประกาศมาณวันที่ ๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๑๙

(เซ็น) พระหัดถสารศุภกิจ
เจ้ากรม ๆ เกษตรากร
แจ้งความกระทรวงมหาดไทย

ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้รับใบบอกพระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิไชย แทนข้าหลวงเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ ฃอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ศาลเมืองทั้งหลายในมณฑลฝ่ายเหนือใช้วิธีพิจารณาพิพากษาคดีตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญามีโทษหลวงสำหรับใช้ไปพลาง ร,ศ, ๑๑๕ แลพระธรรมนูญศาลหัวเมือง ร,ศ, ๑๑๔ กับประกาศสำหรับลงโทษผู้แพ้คดีมีโทษหลวง ร,ศ, ๑๑๕ กระทรวงมหาดไทยได้นำความ