ปากคลองเจดียบูชา เมืองนครไชยศรี ก่อนแล้ว จึ่งจะเสด็จประพาศต่อไป
การที่จะเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ถ้าเปนไปแล้วเพียงใด แลมีข่าวที่สมควรจะนำมาให้ท่านทั้งหลายทราบเมื่อไร จึ่งจะกล่าวต่อไปภายหลัง
อนึ่ง การพระราชพิธีตรียัมพวายในปีชวด สัมฤทธิศก ศักราช ๑๒๕๐ นี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยากระเษตร์รักษาเปนผู้ไปยืนชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมพวาย
ขอแจ้งความมายังท่านผู้ที่เข้าทุนรับหนังสือพิมพ์ราชกิจจานุเบกษาทราบ
ด้วยท่านมีความเต็มใจรับหนังสือราชกิจจานุเบกษาตามความยินดีของท่านซึ่งจะใคร่ฟังข้อความในราชการซึ่งเจ้าพนักงานได้เรียบเรียงลงในหนังสือนี้นั้น กรมอักษรพิมพการมีความยินดีที่จะได้ทำหนังสือฉบับนี้ให้ต้องตามประสงค์ของท่านทั้งปวงผู้อยากฟังโดยเตมกำลัง
ครั้นบัดนี้ กาลก็ล่วงไปจวนสิ้นปีชวด สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๕๐ แล้ว เปนกำหนดที่กรมอักษรพิมพการจะต้องเก็บเงินจำนวนปีกุน นพศก ส่งพระคลังมหาสมบัติ เพราะฉนี้ จึ่งขอแจ้งความมายังท่านทั้งปวงขอให้โปรดให้คนใช้นำเงินตามราคาไปชำระที่โรงอักษรพิมพการในพระบรมมหาราชวัง กำหนดรับเงินที่จะมาชำระได้ตั้งแต่ในรหว่างเวลาเช้า ๔ โมง จนถึงเวลาบ่าย ๕ โมงเปนกำหนด
ณวัน ๔ เดือน ๑ แรมค่ำ ๑ ปีชวด สัมฤทธิศก ศักราช ๑๒๕๐ เวลาเช้า ได้ยกหีบศพหม่อมขำ มารดาหม่อมเจ้าอุทัย ในพระเจ้าบวรวงษ์เธอ กรมหมื่นอนันตการฤทธิ์ ลงเรือขนานแห่ไปขึ้นวอประเทียบไปเข้าโรง(อ่านไม่ออก) วัดปรินายก รุ่งขึ้น ณวัน ๖ เดือน ๑ แรม ๒ ค่ำ เวลาบ่าย พระราชทานเพลิงของหลวง พระราชทานผ้าขาว ๒ พับ เงิน ๑๐๐ เฟื้อง เครื่องพระราชทานเพลิงพร้อม
ณวัน ๖ เดือน ๑ แรม ๓ ค่ำ ปีชวด สัมฤทธิศก เวลาค่ำ ได้ชักศพพระยามหาเทพ เจ้ากรมพระตำรวจในซ้าย (จุ้ย) ไปเข้าปรำที่น่าบ้าน ได้มีการทำบุญอยู่ที่นั้นจนถึงวัน ๒ เดือน ๑ แรม ๖ ค่ำ เวลาเช้า จึ่งได้ยกหีบขึ้นวอประเทียบแห่ไปเข้าเมรุวัดสเกษ เวลาบ่าย พระราชทานเพลิง