กรมเดิมอีก ได้รับสัญญาบัตรเป็นนายร้อยตรีในกรมทหารปืนใหญ่สนามเบาที่ 4 ครั้นได้เป็นนายทหารแล้ว ก็ย้ายมารับราชการอยู่ในกองพันที่ 3 ซึ่งเป็นกองพันที่ใช้ปืนใหญ่ต่างชนิดกับกองพันที่ 1 คือ ใช้ปืนใหญ่ชนิดกระสุนวิถีโค้ง
ในปลายปี 2455 ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลไทยให้ลาออกจากกองทัพบกเยอรมันนีเพื่อไปศึกษาวิชาช่างแสงในประเทศเดนมาร์ก ได้ศึกษาวิชาชั้นต้นเพื่อเตรียมเข้าศึกษาในโรงเรียนเทคนิคชั้นสูงเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นเวลาจวนจะสอบไล่เพื่อเข้าโรงเรียนเทคนิคชั้นสูงอยู่แล้ว ก็ได้รับคำสั่งเรียกให้กลับประเทศไทย
เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ก็ออกไปประจำกรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 จังหวัดราชบุรี เมื่อ พ.ศ. 2457 ได้รับยศเป็นนายร้อยโท ในเดือนเมษายน ปี 2458 ได้เลื่อนชั้นเงินเดือนขึ้น รับในอัตรานายร้อยโทชั้น 1 กับเงินเพิ่มพิเศษอีก 100 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2458 ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปรับราชการในตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยที่ 2 ในกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบางซื่อ ในเดือนเมษายน 2459 ได้เลื่อนยศเป็นนายร้อยเอก และรับเงินเดือนอัตราร้อยเอก ชั้น 3 กับเงินเพิ่มพิเศษอีก 100 บาท ในเดือนเมษายน 2460 ได้เลื่อนชั้นเงินเดือนขึ้น รับอัตรานายร้อยเอก 2 กับเงินเพิ่มพิเศษอีก 100 บาท ในเดือนสิงหาคม 2460 ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปเป็นผู้บังคับการทหารปืนใหญ่ที่ 9 จังหวัดฉะเชิงเทรา พอถึงเดือนเมษายน 2461 ก็ได้เลื่อนชั้นเงินเดือน