ถึงแม้จะได้เคยพบเคยเห็นท่านหัวหน้าคณะราษฎรมาแต่ พ.ศ. 2470 แล้วก็จริง แต่ข้าพเจ้าไม่เคยได้วิสาสะกับท่านผู้นี้เลย จนกระทั่งในราวกลางเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2476 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ท่านได้ลาออกจากคณะรัฐบาลพระยามโหนฯ วันหนึ่งหรือ 2 วัน ในครั้งนั้น ข่าวที่หนังสือพิมพ์ “ประชาชาติ” จั่วหัวว่า “สี่ทหารเสือลาออก” นั้น เป็นข่าวตื่นเต้นและกระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชนอย่างแรง เพราะว่าในต้นเดือนเมษายนปีเดียวกันนั้น หลวงประดิษฐมนูธรรม ผู้เป็นมิ่งขวัญแห่งระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องออกจากคณะรัฐบาลไปคนหนึ่งแล้ว อีกทั้งสภาผู้แทนราษฎรก็ถูกสั่งปิด และยังมีข่าวสี่ทหารเสือลาออกอีกเล่า ประชาชนก็พากันวิตกหวั่นหวาดว่า ระบอบประชาธิปไตยเห็นจะไปไม่ถึงฝั่งเป็นแน่ และคงจะอับปางลงในไม่ช้า
ในชั่วโมงแห่งความเป็นหรือตาย ในชั่วโมงแห่งการอยู่หรือรอดของระบอบประชาธิปไตยนี้เอง ข้าพเจ้าได้รับโอกาสเป็นครั้งแรกสนทนาวิสาสะกับท่านเชษฐบุรุษ ประมุขคณะราษฎร กิริยาเสงี่ยมสุภาพที่ข้าพเจ้าเคยพบที่ท่านนายพันโท พระยาสรายุทธสรสิทธิ์ เมื่อปี พ.ศ. 2470 นั้น ข้าพเจ้ายังคงได้พบอยู่อย่างบริบูรณ์ เมื่อได้มานั่งอยู่ต่อหน้านายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะปฏิวัติ ในตอนเช้าของวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2476
เมื่อได้มีโอกาสสนทนาวิสาสะกับท่านผู้นี้แล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่า กิริยาอาการที่ท่านต้อนรับ และน้ำคำที่ท่านได้กล่าวคำปราศรัย