มีเรื่องน่าสนใจให้สังเกต คือ คณะรัฐมนตรีนั้นไม่มีสถานะอย่างเป็นทางการในรัฐธรรมนูญ มีแต่ "รัฐมนตรี" ที่ได้รับการเอ่ยถึง และก็เป็นที่รับรู้อยู่เพียงเท่านั้น แม้ในเรื่องอำนาจหน้าทางราชการก็ตาม แต่คณะรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นคณะบุคคลนั้น ไม่เป็นที่รับรู้อย่างเป็นทางการ แน่ล่ะ จะเหมารวมก็ได้ว่า บรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย ซึ่งมีผู้หนึ่งเรียกว่า "นายกรัฐมนตรี" นั้น ย่อมรวมกันเป็นองค์การอันเรียกว่า "สภารัฐมนตรี" หรือ "คณะรัฐมนตรี" ดังนั้น ในทางอ้อมแล้ว คณะรัฐมนตรีจึงย่อมเป็นที่รับรู้และต้องรับได้การพิจารณาในฐานะองค์กรตามรัฐธรรมนูญ[1]
- ↑ ประกาศดังต่อไปนี้ (ออกในปี 1889) อธิบายอยู่ในตัวแล้ว
"ประกาศพระบรมราชโองการ ที่ 135กิจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
ข้อ1คณะรัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรีทั้งหลาย
ข้อ2ประธานรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐมนตรี ทูลรายงานกิจการแผ่นดินต่อองค์อธิปัตย์ และมีอำนาจควบคุมโดยทั่วไปเหนือฝ่ายต่าง ๆ ในการปกครอง ตามพระราชบัญชา
ข้อ3ประธานรัฐมนตรีสามารถบัญชาฝ่ายใด ๆ ในการปกครอง หรือระงับคำประกาศของฝ่ายดังกล่าวระหว่างรอองค์อธิปัตย์ตัดสินพระทัยในเรื่องนั้นได้ ถ้าโอกาสดูจะสำคัญเพียงพอถึงขนาดต้องปฏิบัติการเช่นนั้น
ข้อ4กฎหมายทั้งหลายก็ดี และพระราชกำหนดทั้งปวงก็ดี บรรดาที่กระทบต่อการปกครองโดยรวม ให้ประธานรัฐมนตรี กับทั้งรัฐมนตรีแห่งกระทรวงอันเป็นที่มาโดยตรงของพระราชกำหนดกฎหมายเหล่านั้น ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ส่วนพระราชกำหนดทั้งปวงที่กระทบต่อกระทรวงพิเศษเพียงแห่งเดียว ให้ประธานรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเพียงผู้เดียว
ข้อ5เรื่องดังต่อไปนี้ ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อปรึกษาหารือ
(1)ร่างกฎหมาย งบประมาณ และบัญชีที่ชำระสะสางแล้ว
(2)สนธิสัญญากับต่างประเทศ และบรรดาปัญหาสำคัญระดับชาติ
(3)ข้อกำหนดอันเกี่ยวกับการปกครอง หรือเกี่ยวกับการบังคับตามกฎและกฎหมาย
(4)ข้อพิพาทอันเกี่ยวโยงกับอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีประจำกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
(5)ฎีกาจากประชาชนซึ่งพระมหากษัตริย์พระราชทานลงมา หรือซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งจักรวรรดิเสนอมา
(6)รายจ่ายที่อยู่นอกเหนืองบประมาณสามัญ
(7)การตั้งพนักงานโชกูนิง และผู้ปกครองและผู้ว่าการส่วนท้องถิ่น ตลอดทั้งการเลื่อนและถอดบุคคลเหล่านั้น
นอกจากข้างต้นแล้ว เรื่องสำคัญเรื่องใดที่เกี่ยวโยงกับหน้าที่ของรัฐมนตรีประจำกระทรวง และเกี่ยวข้องถึงฝ่ายชั้นสูงในการปกครอง ก็ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อปรึกษาหารือด้วย
ข้อ6รัฐมนตรีทุกคนที่ประจำกระทรวงสามารถเสนอเรื่องใด ๆ ก็ตามที่มีผลต่อกิจหน้าที่ของตนผ่านประธานรัฐมนตรีมาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
ข้อ7ให้รัฐมนตรีกระทรวงสงครามและกระทรวงทหารเรือรายงานตรงต่อประธานรัฐมนตรี เว้นแต่ในกิจการทหารหรือทหารเรืออันสำคัญยิ่งยวด ซึ่งเสนาธิการได้ทูลรายงานโดยตรงต่อองค์อธิปัตย์ และองค์อธิปัตย์อาจทรงเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
ข้อ8หากประธานรัฐมนตรีมีเหตุขัดข้องทำให้มิอาจปฏิบัติกิจหน้าที่ของตนได้ กิจหน้าที่เหล่านั้นอาจถ่ายโอนเป็นการชั่วคราวไปยังรัฐมนตรีคนอื่น นอกเหนือจากหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้นั้นอยู่แล้ว
ข้อ9หากรัฐมนตรีคนใดมีเหตุขัดข้องทำให้มิอาจปฏิบัติกิจหน้าที่ของตนได้ กิจหน้าที่เหล่านั้นอาจถ่ายโอนเป็นการชั่วคราวไปยังรัฐมนตรีคนอื่น นอกเหนือจากหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้นั้นอยู่แล้ว หรืออาจมีการตั้งมนตรีคนอื่นมาปฏิบัติกิจหน้าที่เหล่านั้น
ข้อ10นอกเหนือไปจากรัฐมนตรีทั้งหลายแล้ว อาจมีการแต่งตั้งมนตรีขึ้นเป็นพิเศษให้เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี"