มิฟังข้าพเจ้ากราบทูลแล้ว จงเสวยสมบัติให้ทรงพระเจริญเถิด ข้าพเจ้าจะขอถวายบังคมลาตาย พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังเสี่ยงหยงกราบทูลว่า จะให้ฆ่านางขันกี ก็ทรงพระโกรธ จึงสั่งทหารซึ่งถือกระบองทองยืนรักษาพระองค์อยู่ซ้ายขวาให้ตีเสี่ยงหยงเสียให้ตาย เสี่ยงหยงได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ลุกยืนขึ้น แล้วชี้มือร้องว่าแก่พระเจ้าติวอ๋องว่า เราเป็นขุนนางมาถึงสามแผ่นดิน พระบิดาท่านได้ฝากแก่เราไว้ว่า ถ้าเห็นท่านทำผิดให้ทัดทาน บัดนี้ เราเห็นว่า ท่านทำมิชอบ ให้ทำโทษนางเกียงฮองเฮาซึ่งเป็นที่คำนับแก่ราษฎรทั้งแผ่นดิน จนนางเกียงฮองเฮาสิ้นชีวิต แล้วจะฆ่าบุตรเสียด้วยเล่า เราจึงเข้ามาว่ากล่าวห้ามปราม กลับโกรธ จะเลี้ยงอีขันกีไว้ก็ตามเถิด เสี่ยงหยงก็เอาศีรษะโดนเสาศิลาตาย พระเจ้าติวอ๋องจึงสั่งเจ้าพนักงานให้เอาศพเสี่ยงหยงไปทิ้งเสียนอกเมือง
ฝ่ายเตียวคีเห็นทหารหามศพเสี่ยงหยงไปทิ้งเสียดังนั้นก็โกรธ จึงเข้าไปทูลว่า เสี่ยงหยงเป็นคนสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน เข้ามาทัดทานว่ากล่าว พระองค์กลับโกรธ เสี่ยงหยงน้อยใจฆ่าตัวเสียฉะนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่า ราชสมบัติท่านเห็นจะเป็นของผู้อื่นแล้ว พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังเตียวคีว่ากล่าวหยาบช้าก็ขัดเคืองนัก จึง