ก็ยังอยู่ดอก แล้วโลเฉียก็หยิบเอ็นนาคถือออกมาด้วย ลิเจ้งก็ให้โลเฉียคำนับเงาก๋อง โลเฉียก็เข้าไปคุกเข่าคำนับเงาก๋องแล้วว่า ซึ่งข้าพเจ้าฆ่าบุตรท่านเสียนั้น อย่าถือโทษข้าพเจ้าเลย แล้วเอาเอ็นนาควางให้เงาก๋อง เงาก๋องเห็นเอ็นเงาเปงผู้บุตรก็ร้องไห้ แล้วว่ากับลิเจ้งว่า บุตรท่านฆ่าบุตรเราเสีย จนเห็นประจักษ์สำคัญอยู่ฉะนี้ ท่านยังว่า หารู้ไม่ บุตรเราผู้นี้เทพยดาตั้งไว้สำหรับบันดาลฝนและน้ำค้างให้ตกต้องตามฤดู แหมแฉเล่าเทพยดาก็ตั้งไว้สำหรับตรวจปากอ่าวชเล เมื่อบุตรท่านฆ่าเงาเปง แหมแฉ เสียฉะนี้ เราจะไปทูลพระอิศวรให้ทราบ แล้วเงาก๋องก็ลาไป ลิเจ้งลุกขึ้นกระทืบเท้าแล้วก็ร้องไห้ นางฮึนสีได้ยินเสียงลิเจ้งร้องไห้ จึงให้หญิงคนใช้ออกไปฟังดู หญิงคนใช้กลับมาบอกนางฮึนสีว่า ได้ยินว่า โลเฉีย บุตรที่สามท่าน ไปฆ่าเงาเปง บุตรเงาก๋อง เสีย เงาก๋อง บิดาเงาเปง จะไปทูลพระอิศวร นางฮึนสีก็ตกใจ จึงออกมาจะฟังให้แน่ ลิเจ้งเห็นนางฮึนสีผู้เป็นภรรยา ลิเจ้งเช็ดน้ำตาพลางว่าแก่นางฮึนสีว่า เมื่อเราไปเที่ยวเรียนวิชาอยู่นั้น หมายว่า จะเป็นฤษีอาศัยอยู่ภูเขาและถ้ำที่สงัด มิได้คิดว่า จะมีภรรยาและบุตร หากบุญเราน้อย สละไปมิได้ จึงมาได้เจ้าเป็นภรรยาจนมีบุตรถึงสามคนแล้ว เราก็มิได้คิดจะกระทำ
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/180
หน้าตา