กลับมาทำไมเล่า โลเฉียจึงว่า ท่านให้ข้าพเจ้าไปอยู่ด่านตันตึงก๋วนได้เจ็ดปีแล้ว แล้วโลเฉียก็เล่าความทั้งปวงให้ไทอิดจินหยินฟังทุกประการ แล้วโลเฉียว่า เงาก๋อง บิดาเงาเปงซึ่งข้าพเจ้าฆ่าเสียนั้น จะไปทูลพระอิศวรเพลาเช้าวันนี้ ไทอิดจินหยินได้ฟังดังนั้น นิ่งรำพึงอยู่ช้านาน แล้วว่า เงาก๋องเป็นถึงพระยานาค รู้แต่จะบันดาลได้ให้ฝนและน้ำค้างตก หาเห็นเหตุว่า โลเฉีย กับเงาเปง แหมแฉ สามคนนี้เป็นเวรกันไม่ ความแต่เพียงนี้ไม่ควรจะเคืองถึงพระอิศวร ไทอิดจินหยินจึงเรียกโลเฉียเข้าไปใกล้ แก้แพรหลินที่พันตัวออกเสีย เขียนยันต์ลงที่หน้าผาก แล้วไทอิดจินหยินก็บอกอุบายให้โลเฉียต่าง ๆ โลเฉียก็คำนับลาไทอิดจินหยินไป ณ โก๋เต๊กหมึง ภาษาไทยว่า ประตูไกรลาส
ขณะเมื่อโลเฉียไปถึงนั้นเพลาเช้าตรู่ โก๋เต๊กหมึงยังไม่เปิด โลเฉียก็แอบชะง่อนเขาคอยอยู่
พอเงาก๋องมาถึง มิได้เห็นโลเฉีย ก็เข้าไปยืนอยู่ที่โก๋เต๊กหมึง โลเฉียก็เอากำไลตีเงาก๋องเซไป โลเฉียได้ที ก็ตามตีซ้ำเติมไป จนเงาก๋องล้มลง โลเฉียก็โจนขึ้นเหยียบอกไว้ เงาก๋องจึงว่า อ้ายลูกเล็กฟันน้ำนมยังไม่หมด บังอาจฆ่าเงาเปงแหมแฉเสีย แล้วยังตามมาทำร้ายกูอีกเล่า แล้วด่าโลเฉียเป็นข้อ