หมอดู ฆ่าคนตาย จึงแวะเข้าดู เห็นหญิงศีรษะแตกล้มลงอยู่กับหน้าร้านเกียงจูแหย เกียงจูแหยยังยุดข้อมือไว้ ปิกันจึงถามว่า เหตุใดตัวจึงฆ่าคนเสีย เกียงจูแหยจึงว่า หญิงผู้นี้มิใช่มนุษย์ เป็นปิศาจ ปิกันจึงว่า ตัวว่า เป็นปิศาจ ทำไมจะเห็นจริงเล่า เกียงจูแหยจึงว่า ถ้าท่านจะใคร่รู้ จงให้ไปเอาฟืนมาสุมไฟเผาหญิงผู้นี้ ก็จะได้เห็นดีและร้าย ปิกันจึงว่า ความข้อนี้ใหญ่อยู่ เราจะไปกราบทูลให้ทราบก่อน ปิกันก็ให้คนคุมเกียงจูแหยไว้ ปิกันก็รีบเข้าไปในวัง
พอพระเจ้าติวอ๋องเสด็จออกเสวยสุราอยู่กับนางขันกี ณ พระที่นั่งชมดาว ปิกันก็ขึ้นไปเฝ้าทูลความตามถ้อยคำเกียงจูแหยให้ทราบทุกประการ ฝ่ายนางขันกีนั่งริมสุราถวายอยู่ ได้ยินปิกันกราบทูลก็รู้ว่า ปีแป๋ พรรคพวกของตัว ก็ตกใจ จึงคิดว่า ปีแป๋ออกไปที่อยู่ ไม่พอที่จะซุกซนไปให้หมอดูเขาจับได้
ฝ่ายพระเจ้าติวอ๋องก็สั่งให้หาตัวหมอกับปิศาจเข้ามาหน้าที่นั่ง ให้เอาฟืนมากองไว้ เกียงจูแหยจึงจับสายสิญจน์ลงเลขยันต์วงรอบกองฟืน แล้วเอาตัวปีแป๋ปิศาจวางลง เอาฟืนทับ จึงจุดไฟไหม้ฟืนโทรม ตัวปีแป๋ปิศาจหาไหม้ไม่ ลุกยืนขึ้นกลางกองไฟชี้หน้าว่ากับเกียงจูแหยว่า ตัวท่านกับเราแต่ชาติ