สั่งให้ทำตามคำนางขันกีว่า แล้วสั่งให้ขุนนางกับบูซูกำกับกันเอาขนมเปี๊ยะไปให้กีเซียงกิน
ฝ่ายกีเซียงวันนั้นเอาขิมมาดีดเล่น เสียงไม่เพราะเหมือนแต่ก่อน ก็รู้ว่า กองจู๊เปกอิบโค้ผู้บุตรถึงแก่ความตาย จึงว่า เพราะลูกเราไม่ฟังคำเรา ขืนมาให้เขาฆ่าตายลำบาก บัดนี้ นางขันกีจะเอาเนื้อลูกมาให้เรากิน ถ้าเราไม่กินก็จะฆ่าเสีย กีเซียงคิดแล้วก็ร้องไห้ พวกพ้องบ่าวไพร่เห็นดังนั้นจึงถามว่า ท่านนั่งดีดขิมอยู่ดี ๆ เหตุใดจึงร้องไห้ กีเซียงก็มิได้บอกประการใด พอบูซูเอาขนมเปี๊ยะมาให้ บอกว่า เสด็จไปเล่นป่าได้เนื้อกวางเนื้อหมีมาทำขนมเปี๊ยะ รับสั่งให้เราเอามาประทาน กีเซียงกราบลงแล้วแลดูรู้ว่า เนื้อกองจู๊เปกอิบโค้ผู้บุตร จึงทำเป็นว่า รับสั่งเอาของมาพระราชทานเรานี้ หาพระคุณที่สุดมิได้ แล้วหยิบเอาขนมเปี๊ยะมากินสิ้นทั้งสามอัน กินแล้วกีเซียงก็หัวเราะ แล้วว่ากับบูซูว่า ท่านช่วยพิดทูลให้ดีด้วย ถ้ามิตายจะแทนคุณท่าน ครั้นขุนนางบูซูไปแล้ว กีเซียงก็ร้องไห้ทุกข์ร้อนถึงกองจู๊เปกอิบโค้ผู้บุตร หาเป็นกินเป็นนอนไม่
ขณะนั้นพระเจ้าติวอ๋องเสด็จอยู่ที่เหียนเก๋งเกียนตำหนักในพระราชวัง รับสั่งให้เสี้ยงไต้หูฮุยเล่นหมากรุกกันอยู่