ฝ่ายฮั่นเอ๋งซึ่งเป็นนายด่านฮำจุยก๋วนแจ้งกิตติศัพท์ว่า บุนอ๋องได้เกียงจูแหยไปไว้ ก็มีหนังสือบอกไปถึงปิกัน ปิกันก็เข้าไปกราบทูลพระเจ้าติวอ๋องตามหนังสือฮันเอ๋งทุกประการ แล้วว่า เกียงจูแหยเป็นคนมีปัญญา ใจกล้าหาญ เห็นจะคิดกบฏทำศึกใหญ่ ซ่องเฮกเฮ้าก็คิดกบฏอยู่เมืองตังลู้ งกจกฮูก็ยกทหารมารบอยู่ที่ด่านลำสาน ครั้งนี้ เห็นบ้านเมืองจะวุ่นวายมาก ทั้งฝนฟ้าก็ไม่ตก ไพร่บ้านพลเมืองขัดสนด้วยเสบียงอาหาร ได้ความยากแค้น เงินทองในท้องพระคลังก็เบาบาง บุนไท้สือซึ่งยกไปปราบข้าศึกฝ่ายเหนือนั้นการศึกก็ยังติดพันกันอยู่ ขอให้ทรงคิดตรึกตรองจงหนัก พระเจ้าติวอ๋องได้ฟังแล้วตรัสว่า เราจะปรึกษาด้วยขุนนางผู้ใหญ่ดูก่อน
ขณะนั้น ซ่องเฮ่าเฮ้าซึ่งทำการลกไต๋ พระที่นั่งเย็น เร่งทำทั้งกลางคืนกลางวัน สองปีกับสี่เดือน การลกไต๋นั้นแล้วเสร็จ จึงกราบทูลพระเจ้าติวอ๋อง พระเจ้าติวอ๋องก็ดีพระทัย แล้วตรัสสรรเสริญซ่องเฮ่าเฮ้าว่า ผิดจากท่านแล้ว ไม่เห็นใครจะทำการลกไต๋ให้แล้วเร็วเหมือนท่านได้ พระเจ้าติวอ๋องจึงเอาความในหนังสือบอกฮั่นเอ๋งนั้นปรึกษาซ่องเฮ่าเฮ้าว่า เกียงจูแหยหนีไปอยู่เมืองไซรกี บุนอ๋องชุบเลี้ยงให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ซ่อง-