แล้วว่า แต่ท่านทำราชการมาโดยสัตย์กตัญญูก็ช้านานแล้ว ไม่เคยได้ยินว่าดังนี้เลย ขอท่านจงหยุดอยู่ตรึกตรองดูให้ดีก่อน ปิกันจึงว่า บัดนี้ มีรับสั่งเร่งเป็นการเร็ว ไม่รู้ที่จะคิดประการใด ปิจู๊ซึ่งเป็นบุตรชายจึงว่าแก่ปิกันผู้บิดาว่า เมื่ออาจารย์เกียงจูแหยมาพิเคราะห์ดูราศีท่านครั้งก่อนนั้น ทายไว้ว่า เคราะห์ร้าย แล้วเขียนหนังสือบอกความรู้ไว้ว่า ถ้ามีเหตุการณ์ข้างหน้าอย่างไร ก็ให้ดูแก้ไขตามหนังสือนั้น ปิกันก็คิดขึ้นได้ มีความยินดี หยิบเอาหนังสือมาดู แล้วเขียนยันต์ลงที่กระดาษใส่น้ำกินเข้าไป แล้วก็ลุกเดินออกมาขึ้นขี่ม้าไปในวังด้วยขันที ครั้นมาถึงประตูพระราชวัง ก็ลงจากม้าจะเข้าไปเฝ้า บูเสงอ๋องวิ่งเข้ามาคำนับแล้วถามว่า ท่านจะเข้าไปเฝ้าด้วยราชการสิ่งไร ปิกันจึงบอกว่า ขันทีไปหาเรามา บอกว่า นางขันกีป่วย จะเอาตับมังกรในท้องเราทำยาให้นางขันกีกิน แล้วก็เดินไป บูเสงอ๋องได้ฟังปิกันบอกดังนั้นก็สงสัยนัก ก็เดินตามเข้ามาแอบฟังอยู่ริมพระที่นั่ง ปิกันเข้ามาถึงประตูชั้นห้า เห็นพระเจ้าติวอ๋องเสด็จอยู่บนพระที่นั่งลกไต๋ ก็เข้าไปเฝ้า พระเจ้าติวอ๋องจึงตรัสว่า บัดนี้ นางขันกีป่วยรากโลหิต จะต้องการตับมังกรต้มให้กิน จึงจะหายโรค จะให้ไปหาตับมังกรที่ไหนก็ไม่มี เขาว่า จำเพาะมีอยู่แต่ที่ในท้องท่าน
หน้า:Hongsin 2506 (1).djvu/290
หน้าตา