มีใจกำเริบขึ้น ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด อึงง่วนจี้จึงว่าแก่ซ่องเฮ่าเฮ้าว่า ประเพณีเป็นทหารกระทำศึกแล้วก็มีแต่แพ้กับชนะ ซึ่งท่านจะคิดย่อท้อดังนั้นหาควรไม่ ข้าพเจ้าเห็นว่า กีเซียง เมืองไซรเป๊กเฮ้า ก็ยกตามมาจะใกล้ถึงอยู่แล้ว ถ้าทัพกีเซียงมาพร้อมกัน ทหารก็จะมาขึ้น จะเข้าตีเอาเมืองกีจิวเฮ้าก็จะได้โดยง่าย ขอท่านจงตั้งมั่นอยู่คอยกองทัพกีเซียงก่อน ซ่องเฮ่าเฮ้าได้ฟังดังนั้นก็เห็นชอบด้วย จึงให้แต่งโต๊ะเลี้ยงทหาร ทหารทั้งปวงพากันกินโต๊ะเสพสุรามัวเมา มิได้คิดที่จะรักษาค่าย
ฝ่ายเชาฮู ครั้นยกมาถึงค่ายซ่องเฮ่าเฮ้า เวลาประมาณยามเศษ เห็นค่ายซ่องเฮ่าเฮ้าเงียบสงัดอยู่ได้ท่วงทีแล้ว ก็ให้จุดประทัดสัญญาขึ้น ทหารเชาฮูได้ยินเสียงประทัดสัญญา ก็พากันโห่ร้องทลายค่ายเข้าไปทั้งสี่ด้าน
ฝ่ายทหารซ่องเฮ่าเฮ้ามิทันรู้ตัว ตกใจตื่นแตกหนีทิ้งเครื่องศัสตราวุธเสียเป็นอันมาก ซ่องเฮ่าเฮ้าหลับอยู่ ตื่นขึ้นได้ยินเสียงโห่ร้อง แลเห็นทหารวิ่งวุ่นวายหนีออกจากค่ายดังนั้น ซ่องเฮ่าเฮ้าตกใจ ก็ขึ้นม้าจะหนีเอาตัวรอด เชาฮูเห็นซ่องเฮ่าเฮ้าจึงต้องตวาดว่า มึงจะหนีกูไปไหน จงทิ้งอาวุธเสีย มัดตัวเข้า